สยามรัฐ ยึดมั่นอุดมการณ์ปกป้องเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ยืนหยัดรับใช้สังคมด้วยจิตสำนึกแห่งความรับผิดชอบ …*…
2 หนุ่มสาวที่ถูกให้ความสำคัญว่าจะเป็น “ผู้เล่นหลัก” ในสนามการเมืองไทย กำลังเผชิญชะตากรรมที่แตกต่างกันแบบชนิด “สุดขั้ว” …*…
หนึ่งหนุ่มคือนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่เคยเฉียดใกล้เก้าอี้นายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง มาถึงวันนี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะเดินตามรอยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โดนสั่งเว้นวรรคทางการเมือง …*…
หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ยื่นคําร้องกรณีมีหลักฐานอันควรเชื่อว่า พรรคก้าวไกลมีพฤติการณ์กระทําการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทําการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) จึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคผู้ถูกร้อง เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของบุคคลผู้เป็นคณะกรรมการบริหารพรรค และห้ามมิให้ผู้ซึ่งดํารงตําแหน่งคณะกรรมการบริหาร(กก.บห.) พรรค และถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ ภายในกําหนด 10 ปี นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคําสั่งยุบพรรค ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรคสอง และมาตรา 94 วรรคสอง …*…
นายพิธาเองก็ดูเหมือนจะรู้ตัวดีว่า “รอดยาก” เห็นได้จากคำพูดบางช่วงบางตอนของนายพิธาระหว่างกล่าวสรุปการอภิปรายเพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ที่ว่า “ตลอดระยะเวลา 7 เดือนที่ผ่านมาไม่เคยเสียใจที่ไม่ได้เป็นผู้บริหารถึงแม้จะชนะเลือกตั้ง สามารถรวบรวมเสียงได้ 312 เสียง ไม่เคยเสียใจที่เข้ามาเป็นฝ่ายค้าน และไม่เคยเสียใจว่าการอภิปรายในครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต ผมพร้อมที่จะเดินจากไปอย่างผู้ชนะ ไม่มีอะไรติดค้างใจต่อไป” …*…
ขณะที่อีก 1 สาว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เส้นทางกลับแลดูสดใส มีโอกาสสูงยิ่งที่จะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อจากนายเศรษฐา ทวีศิลป์ แม้การนำนำทัพพรรคเพื่อไทยสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งที่ผ่านมาจะพ่ายแพ้ต่อพรรคก้าวไกลก็ตาม …*…
“สำหรับ อุ๊งอิ๊ง (น.ส.แพทองธาร) ผมมั่นใจว่าจะสามารถนำทีมพลิกเกมได้ไม่ยาก เป็นดีเอ็นเอระหว่างคุณหญิงพจมาน (ดามาพงศ์) กับผม ผสมกันเป็น อุ๊งอิ๊งคือ เอาส่วนเข้มแข็ง อดทน เด็ดขาดมาจากคุณหญิงพจมาน และเอาส่วนที่พบปะผู้คน เข้าใจการเมืองมาจากผม และเชื่อว่าเขาเป็นผู้นำที่ดีได้ ไม่ใช่มาเชียร์ลูกแต่ในเมื่อผมทำได้ ดีเอ็นเอผมก็ต้องทำได้ และทำได้ดีกว่าด้วย” คำให้สัมภาษณ์ถึงลูกสาวตัวเองจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีการบันทึกเทปมาเผยแพร่ต่อที่ประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย …*…
กระนั้น ดีเอ็นเอของพ่อแม่นางสาวแพทองธารใช่ว่าจะมีมนต์ขลังต่อทุกฝ่าย โดยมีเสียงเตือนจากนายไพศาล พืชมงคล กูรูการเมือง ที่ได้ส่งสัญญาณผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า พรรคการเมืองพรรคหนึ่งจะอยู่ช้าอยู่นานประการใดไม่สำคัญ ความสำคัญอยู่ที่เป็นพรรคการเมืองของประชาชนหรือไม่ พรรคการเมืองของประชาชนคือ พรรคการเมืองที่มีจุดยืนอยู่กับผลประโยชน์ของประชาชนข้างมากของประเทศ เป็นปากเสียงของประชาชนข้างมากของประเทศ และทำการต่อสู้เพื่อประโยชน์ของประชาชนข้างมากของประเทศ เพราะเป็นพรรคการเมืองของประชาชน ดังนั้นประชาชนจึงสนับสนุน และเข้าร่วมการต่อสู้จนถึงที่สุด พรรคการเมืองชนิดนี้จึงดำรงคงอยู่และไม่มีใครกวาดล้างหรือล้มลงไปได้ ถ้าหากไม่ใช่พรรคการเมืองของประชาชนแต่เป็นพรรคของใครคนใดคนหนึ่งเพื่อประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง พรรคการเมืองนั้นอยู่ไปวันหนึ่งก็หนักแผ่นดินวันหนึ่ง หนักหัวของประชาชนไปวันหนึ่งหาประโยชน์อันใดไม่ได้ ไม่ช้านานไม่ประชาชนก็ทหาร ผู้รักษาบ้านเมือง ก็จะโค่นล้มลงไป …*…
“ผมเคยพยากรณ์คุณอุ๊งอิ้งไว้เมื่อตอนเปิดตัวทางการเมืองครั้งแรกว่า มีเป้าหมายชัดเจนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่จะยังเป็นรัฐมนตรีไม่ได้ จะต้องอาศัยเวลาอีกระยะหนึ่ง ซึ่งวันนี้ก็เป็นดังคำพยากรณ์นั้น!!! คุณอุ๊งอิ๊งในวันนี้ก็เหมือนกับหลี่เซียนลุง ในวันที่ลีกวนยูแห่งสิงค์โปร์ ให้โกะจ๊กตง ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคั่นเวลาไว้ เพื่อให้มีเวลาสร้างสมประสบการณ์ ด้วยความใจเย็นจนมีความพร้อมแล้วลีเซียนลุงก็ขึ้นเป็นายกรัฐมนตรีสืบต่อมาจนถึงวันนี้ แต่ดูท่ากรณีของคุณอุ๊งอิ๊งแล้ว กำลังมีการเร่งฟืนเร่งไฟ จนน่าห่วงว่าถ้าไม่ดิบก็จะไหม้เสียก่อน ระวังอย่าให้กลายเป็นพ่อแม่รังแกฉัน เพราะวันนี้ชัดมากว่าสารพัดความอยากของใครต่อใครที่ทุ่มใส่คุณอุ๊งอิ๊ง ไม่ต่างกับคบไฟที่โยนใส่คุณอุ๊งอิ๊งนะครับ ในห้วงเวลารอวันนั้น การศึกษาอบรมจิตใจให้ตั้งอยู่ในพระธรรม ให้มีความรักประเทศชาติและราษฎร จะทำให้ชีวิตเย็นไม่ร้อน และเป็นเครื่องคุ้มครองป้องกันภัยจากไฟแห่งอำนาจไม่ให้เผาผลาญได้”นายไพศาลระบุ ...*...
อย่างที่รับทราบกัน การเมืองแบบไทยๆ นั้น อะไรก็เกิดขึ้นได้ ฉะนั้น ก่อนที่จะไปถึงเป้าหมาย มีหลายปัจจัยแวดล้อมที่อาจทำให้นางสาวแพรทองทางต้องสะดุดหยุดลงก็เป็นได้ …*…
ที่มา:เจ้าพระยา (11/04/67)