การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 42” ในวันที่ 28 มีนาคม-1 เมษายน 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตอกย้ำเที่ยวกับ ททท. มีแต่ “ความสุข” นำเสนอ 9 โซนหลัก ส่งมอบความมหัศจรรย์ของท่องเที่ยวไทยทุกมิติ สร้างแรงบันดาลใจเดินทางรับความสุขทันที ที่เที่ยวไทยตลอดทั้งปี
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ททท. เตรียมชวนแกะกล่องความสุข เปิดรับเมนูประสบการณ์ท่องเที่ยวไทยทุกมิติ กับงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 42” ปีนี้ ททท. ยกทัพพลัง Soft Power และวัฒนธรรมย่อย มาเป็นจุดขายสะท้อนเอกลักษณ์ท้องถิ่นและแหล่งท่องเที่ยวของแต่ละภูมิภาค ควบคู่กับนำเสนอรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ใหม่ ๆ ทั้งในเมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองรอง รวมทั้งสร้างความตระหนักรู้ถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ โดยผนวกเทคโนโลยีนวัตกรรมสมัยใหม่เข้ามาเป็นเครื่องมือในการส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและความหมาย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางรับความสุขทันที ที่เที่ยวไทยตลอดทั้งปี (365 วัน) ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรแบบครบวงจร 360 องศา
ททท. ยังตอกย้ำ DNA ขององค์กรในการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง กับกิจกรรม ลดโลกเลอะ Zero Waste to Landfills เป็นปีที่ 2 จากความสำเร็จของกิจกรรมปีที่ผ่านมา สามารถส่งต่อขยะเข้าสู่กระบวนการกำจัดอย่างถูกวิธี ได้ถึง 12,271 กิโลกรัม ช่วยลดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ จำนวน 27,420 กิโลคาร์บอน หรือเทียบเท่ากับการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของต้นไม้ 3,046 ต้น/ปี ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน โดยปีนี้ ททท. ยังคงให้ความสำคัญกับการจัดงานที่ลดการสร้างขยะและจัดการขยะอย่างถูกวิธี โดยจัดจุดคัดแยกขยะทั้งหมด 20 จุด แต่ละจุดจะมีป้ายกำกับทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และเจ้าหน้าที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการแยกขยะอย่างถูกต้อง ซึ่งได้รับการสนับสนุนความร่วมมือกับพันธมิตร ได้แก่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร โครงการ You เทิร์น by บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC รวมทั้ง บริษัท Cirplas และ บริษัท N15 Tecnology เพื่อร่วมกันจัดการขยะด้วย
นอกจากนี้ ททท. ชวนออกเดินทางรับ “สุขทันที ที่เที่ยวไทย” พาสัมผัสเอกลักษณ์ของ 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ ทั้งด้านประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิต ภูมิปัญญาและแหล่งท่องเที่ยวใหม่ พร้อมนำเสนอความหลากหลายของ แลนด์มาร์ก ผ่าน 9 โซนหลัก ดังนี้
โซนที่ 1 Amazing Thailand พบประสบการณ์ท่องเที่ยวเหนือระดับผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ LED Box จอภาพขนาดใหญ่ที่มาพร้อมมุมมองภาพรอบตัว และ Amazing Thailand VR Dome ที่จะพาออกผจญภัยท่องเที่ยวเสมือนจริงในสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ พักผ่อนในมุมกาแฟ ชมนิทรรศการภาพ อนุสาร อ.ส.ท. และ พูดคุยกับนักเขียน ช่างภาพ อินฟลูเอนเซอร์สายท่องเที่ยว แบบ Exclusive ในโซน อ.ส.ท. Traveller Bar and Space รับข้อมูลข่าวสารท่องเที่ยวกับเคาน์เตอร์ 1672 Travel Buddy เพื่อนร่วมทาง
โซนที่ 2 หมู่บ้านภาคตะวันออก“Colorful Burapha” บอกเล่าทุกเฉดสีของดินแดนบูรพาผ่าน 4 แนวคิดหลัก “ยืนหนึ่งเรื่องกิน สุดฟินเรื่องเที่ยว เต็มเหนี่ยวเที่ยวสายศรัทธา(สายมู) เรียนรู้เรื่องรักษ์” นำเสนอแลนด์มาร์ก ประภาคารบางเบ้า เกาะช้าง จ.ตราด และหัวแหวนพลอย จ.จันทบุรี ตอกย้ำความอุดมสมบูรณ์ของภูมิภาคผ่าน วัฒนธรรมอาหารยกทัพอาหารทะเลและอาหารถิ่นมาพร้อมเสิร์ฟ กว่า 50 ร้าน อาทิ ร้านป้าบ้านอำเภอ จ.ชลบุรี มาพร้อมเมนูปลาดุกทอดกรอบผัดเผ็ด แกงไก่บ้านกระวานจากครัวจันท์อาหารถิ่น จ.จันทบุรี
โซนที่ 3 หมู่บ้านภาคกลาง ในคอนเซปต์ “กลางบุรี” ราชธานีแห่งความสุข ความสนุกสนาน เปิดหมู่บ้านมากับประตูกำแพงวังพระนารายณ์ราชนิเวศน์ จ.ลพบุรี และโดดเด่นด้วยแลนด์มาร์ก หมู่เรือนไทยภาคกลาง พร้อมสอดแทรกตกแต่งบรรยากาศ “สงกรานต์มนต์รักลูกทุ่ง” ภายในหมู่บ้านจัดไฮไลต์ จำลองตลาดบก-ตลาดน้ำ ในเรือพายแบบดั้งเดิม
โซนที่ 4 หมู่บ้านภาคเหนือ ชวนมาแอ่วเมืองล้านนาด้วยคอนเซปต์ “Faithival #เล่าเรื่องป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง” ผสมผสานความร่วมสมัย Northern Thailand Soft Power ชูงานเทศกาลประเพณี ความเชื่อ ความศรัทธา (Faithival) อย่าง “งานเทศกาลสงกรานต์ปี๋ใหม่เมือง ก่อนจะแวะ กาดหมั้ว เติมเสบียงอาหารพื้นเมืองเหนือลำแต้ๆ เช่น ข้าวซอยใบเหมี้ยง จ.ลำปาง ข้าวเปิ๊บ บ้านนาต้นจั่น จ.สุโขทัย
โซนที่ 5 หมู่บ้านภาคใต้ ต้อนรับหลบเรินอย่างอบอุ่นกับคอนเซปต์ “Southern Village หมู่บ้านภาคใต้ #หลบใต้บ้านเรา” เสิร์ฟอัตลักษณ์พหุวัฒนธรรมตั้งแต่ก้าวผ่านซุ้มประตูสีสันร่วมสมัยลายผ้าปาเต๊ะ ผ้าบาติก และลูกปัดโนรา เช็กอินแลนด์มาร์กสำคัญ หอนาฬิกาเมืองเบตง จ.ยะลา เพิ่มความสนุกกับเวทีการแสดง “หรอยเอ็นเตอร์เทนเม้นท์” จัดเต็ม โนรา ระบำตาลีกีปัส และเพลิดเพลินกับศิลปินลูกหลานชาวปักษ์ใต้
โซนที่ 6 หมู่บ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลงรักถิ่นอีสานไปกับแนวคิด “Isan Festi "เว้า" #เล่าเรื่องเมืองอีสาน” บอกเล่าความเป็นอีสานในบรรยากาศสีสันสดใส ยืนหนึ่งแลนด์มาร์กบั้งไฟตะไลล้าน จากบ้านกุดหว้า จ.กาฬสินธุ์ และจุดถ่ายภาพ ISAN SoftPower พาขาเลาะม่วนคักกันต่อกับ ไทรถแห่ อีสานรำซิ่ง และการแสดงของศิลปิน เช่น สิงโต นำโชค เฟิร์ส พรชิตา
โซนที่ 7 พันธมิตรท่องเที่ยวไทย ได้แก่ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) (อพท.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กระทรวงวัฒนธรรม หอการค้าไทย บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ตำรวจท่องเที่ยว สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NARIT และ บริษัท ปตท. จำกัด รวมทั้งรวบรวมดีลสุดพิเศษจากผู้ประกอบการท่องเที่ยว 8 หน่วยงาน เสนอแพ็กเกจท่องเที่ยวผ่าน “ห้าง ททท.”
จัดเต็มบรรยากาศแห่งความสนุกสนาน โซนที่ 8 เวทีกลาง ส่งต่อความสุขผ่านการแสดงดนตรีศิลปินที่มีชื่อเสียง ปิดท้ายด้วยโซนที่ 9 Sustainable Tourism Goals ตอกย้ำหมุดหมายของการขับเคลื่อนท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน (Sustainable Tourism) ชวนนักท่องเที่ยวสัมผัสถึงประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism) ไปกับ ต้นไม้ Mindcraft ยั่งยืน ภายใต้แนวคิด STGs สู่ Net Zero Carbon Tourism พร้อมนำเสนอโครงการ Shape Supply ด้านความยั่งยืนของ ททท. STGs อย่างน่าสนใจ
ทั้งนี้ ททท. คาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมงานตลอด 5 วันจัดงานกว่า 150,000 คน สร้างการรับรู้ 20 ล้านคน สร้างรายได้ที่เกิดจากคนเข้าร่วมงานและการจ้างงานในครั้งนี้ ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท และมีโอกาสที่จะเกิดรายได้ต่อเนื่องจากการเดินทางมาเที่ยวชมงานฯ และการออกเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่จังหวัดต่าง ๆ ของประเทศไทยด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงานฟรี และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ TAT Contact Center 1672 Travel Buddy