ฤดูฝนถือเป็นช่วงไฮซีซันการท่องเที่ยวของจังหวัดน่าน สายฝน จะจุดประกายธรรมชาติให้ฟื้นตื่นขึ้นมาเขียวขจี อีกครั้ง ผสานกลมกลืนกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าสนใจ หากใครได้มาสัมผัสบรรยากาศหน้าฝนที่แสนโรแมนติกในดินแดนแห่งขุนเขาของจังหวัดน่าน รับรองจะได้สัมผัสทั้งความสุขท่ามกลางธรรมชาติเขียวขจีและความสนุกตื่นเต้น กับกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งการเรียนรู้วิถีชีวิต ศิลปะและวัฒนธรรม สร้างความประทับใจยากจะลืมเลือน  

เริ่มจากจะพาไปนั่งรถรางชมเมืองเก่าน่าน โดยเทศบาลเมืองน่าน ได้เนรมิตรถรางแบบโบราณขนาด 24 ที่นั่ง ซึ่งมีมัคุเทศก์ท้องถิ่นรับอาสาพานักท่องเที่ยวและผู้มาเยือนจังหวัดน่าน นั่งรถรางประมาณ 45-60 นาที  ชมเมืองที่ถูกขนานนามว่าเป็นเมืองเก่าที่มีชีวิต และชมโบราณสถานโบราณวัตถุ สัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวเมืองน่าน ซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญา เรียนรู้ประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมท้องถิ่น เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ชุมชน เรียนรู้การบริหารการจัดการแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน เพลิดเพลินและสัมผัสบรรยากาศริมฝั่งแม่น้ำน่าน 


 หอศิลป์ริมน่าน แหล่งรวมศิลปะและวัฒนธรรมของจังหวัดน่าน สร้างขึ้นเมื่อปี 2547 ก่อตั้งโดย วินัย ปราบริปู ศิลปินชาวน่านชื่อดัง เป็นหอศิลป์เอกชนแห่งแรกที่สร้างรูปแบบของการชมงานศิลปะร่วมกับการท่องเที่ยว ปัจจุบันที่นี่ได้กลายเป็นสถานที่เรียนรู้ของเยาวชน เวทีแสดงศิลปะของศิลปินรุ่นใหม่ และเป็นแหล่งสร้างอาชีพให้ชาวบ้านในพื้นที่ ภายในบริเวณมีอาคาร 2 ชั้น ซึ่งภายในอาคารจัดแสดงภาพวาด และงานศิลปะต่างๆ หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันไปตามวาระต่างๆ จัดแสดงผลงานของศิลปินชาวน่าน ศิลปินต่างประเทศ และศิลปินรุ่นใหม่ ภายในมีร้านกาแฟและสถานที่จัดจำหน่ายสินค้าที่ระลึก งานฝีมือพื้นเมือง สามารถนั่งผ่อนคลายพร้อมกับชมทิวทัศน์ของแม่น้ำน่านและชมงานศิลปะหรือข้าวของเครื่องใช้โบราณต่างๆ ที่จัดแสดงอยู่ภายใน

วัดภูเก็ต อำเภอปัว ตั้งอยู่กลางทุ่งนาสีเขียว ที่มีฉากหลังเป็นดอยภูคา “หลวงพ่อแสนปัว หรือหลวงพ่อพุทธเมตตา” องค์ศักดิ์สิทธิ์ ผินพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก เพ่งตรงไปยังอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ใต้เชิงดอยเป็นพื้นที่ทำนาของชาวบ้าน เมื่อถึงฤดูหนาวจะเกิดทะเลหมอก บรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติก ข้างล่างเชิงเขามีแม่น้ำไหลผ่าน ซึ่งเป็นน้ำซับ ซึมมาจากใต้ดินไหลมารวมกัน เป็นลำธารให้ฝูงปลาและสัตว์น้ำได้พักพิงและเป็นเขตอภัยทาน  หากมองจากจุดชมวิวจะเห็นถึงความสมบูรณ์ของภูเขาที่รายล้อมด้วยหมอกจาง ๆ ลอยอยู่บริเวณรอบ ๆ  พระอาทิตย์ส่องประกายสะท้อนกับอุโบสถสีทองอร่ามเมื่อฝนหยุดตก     

เดินทางจากวัดภูเก็ตมาไม่ไกลจะเจอกลุ่มทอผ้าไทลื้อบ้านเก็ต เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากภูมิปัญญาการทอผ้าแบบดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ โดยมีป้าหลอม คอยต้อนรับผู้ที่มาเยือนอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส ผ้าทอที่นี่จะเป็นลวดลายแบบโบราณ มีทั้งผ้าปูโต๊ะ , ผ้าคลุมไหล่, หมอนอิง เป็นต้น สีจากธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นเปลือกโกโก้ที่นำมาสกัดเป็นสีย้อม เป็นภูมิปัญญาชาวน่าน 

 

 เดินทางไปต่อที่ อำเภอเชียงกลาง ถึงจะเป็นอำเภอเล็กๆ  แต่ก็เต็มไปด้วยทุ่งนาเขียวขจี โอบล้อมไปด้วยภูเขา มีความสวยงามไม่แพ้อำเภอปัว อีกทั้งผู้คนก็ยังคงมีวิถีชีวิตแบบเรียบง่ายอีกด้วย ถือว่าเป็นเสน่ห์ที่น่าหลงใหลอย่างมาก สำหรับ วัดหนองแดง ที่มีอายุกว่า 200 ปี ก็มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะช่อฟ้าของพระอุโบสถของวัดที่แกะสลักเป็นรูปนกหัสดีลิงค์ (ศีรษะเป็นช้าง ตัวเป็นหงส์) ซึ่งชาวไทลื้อเชื่อว่าเป็นสัตว์ชั้นสูงจากสวรรค์ ปัจจุบันศิลปกรรมเช่นนี้หาชมได้ยากเต็มที อีกทั้งเชิงชายยังประดับไม้ฉลุลายน้ำหยาด เป็นลวดลายเฉพาะของชาวไทลื้อเท่านั้น ภายในวิหารจะพบองค์พระประดิษฐานบนนาคบัลลังก์ที่เชื่อกันว่านาคคือตัวแทนของความดีงาม ความสง่างามและช่วยปกป้องพุทธศาสนา  


แวะกราบสักการะ พระธาตุจอมกิตติ  อีกหนึ่งความสวยงามบนยอดเขาตั้งอยู่ที่ บ้านป่าเลา ตำบลพระพุทธบาท อำเภอเชียงกลาง เป็นพระธาตุเก่าแก่โบราณ ที่มีอายุมากกว่าหลายร้อยปี ภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าเอาไว้ เป็นพระธาตุที่ได้รับการเคารพนับถือของชาวอำเภอเชียงกลางอย่างมาก

 ชวนเดินทางไปต่อกับเส้นทางท่องเที่ยวทางโซนน่านใต้ ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติไม่แพ้กัน บนถนนหมายเลข 101 ระหว่างอำเภอเมืองน่าน - อำเภอเวียงสา จะสัมผัสกับความเขียวขจีของทุ่งนาปรังตลอดทั้งปี เริ่มต้นด้วยกิจกรรมแสนสนุกและตื่นเต้นที่ น่านปางช้าง  ในอำเภอเวียงสา ติดริมแม่น้ำน่าน ภายในปางร่มรื่นด้วยร่มเงาต้นก้ามปู สัมผัสช้างแบบใกล้ชิด พร้อมกับกิจกรรมที่มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นให้อาหารช้าง ขี่ช้างชมวิวธรรมชาติ ถ่ายรูปกับช้าง ลอดท้องช้าง อาบน้ำช้าง และกิจกรรมสำหรับเด็กๆ เช่น ระบายสีภาพ ระบายสีปูนพลาสเตอร์ นั่งชิงช้า เล่นขุดดินขุดทราย 
  
ไปกันต่อที่อำเภอนาน้อย เยี่ยมชม วัดถ้ำเชตวัน หรือ พุทธสถานถ้ำเชตวัน 1 ใน 25 “Unseen New Chapters ปักหมุดมุมใหม่ เปิดไทยมุมต่าง” แคมเปญจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภายในวัดมีพุทธศาสนสถานที่เป็นศิลปะแบบล้านนาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่เคารพบูชามากมาย ไม่ว่าจะเป็นพระมหาธาตุเจดีย์วัดถ้ำเชตวัน พระพุทธไสยาสน์ พระหยกขาว พระวิหาร ศาลาหลวง หอกลอง หอหลวงเทวดา ถ้ำธรรมชาติ พิพิธภัณฑ์ถ้ำเชตวัน พระธาตุอินทร์แขวน (จำลอง) และเทพทันใจ เป็นต้น 
    
ให้ธรรมชาติโอบกอดที่ อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ครอบคลุมพื้นที่อำเภอนาน้อย อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าสนเขา ป่าดิบเขา และป่าดิบแล้ง ในช่วงฤดูฝน หรือ Green Season ระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายน เป็นช่วงที่ป่าไม้เขียวชอุ่ม เพราะได้รับความชุ่มชื้นจากน้ำฝน สามารถเที่ยวชมเส้นทางธรรมชาติ ป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ โดยอุทยานฯ จะเปิดการท่องเที่ยวและพักแรมตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป
    
ตลอดทั้งช่วง Green Season นี้ ทาง ททท. สำนักงานน่าน ได้จัดแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวรองรับนักท่องเที่ยวตลอดทั้งช่วงฤดูกาล พร้อมเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวหน้าฝน ภายใต้คอนเซปต์ “เที่ยวน่านหน้าฝน”  ในวันที่ 17 มิถุนายนนี้ ณ กลิ่นนาน่าน คาเฟ่ อ.ภูเพียง จ.น่าน รวมถึงกำหนดจัดงาน “หอมกลิ่น ถิ่นน่าน” ในระหว่างวันที่ 3 – 5 กรกฎาคม 2567  เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดน่าน ผ่านกิจกรรมในช่วงวันธรรมดาและช่วงฤดูกาล Green Season (ฤดูฝน) โดยภายในงานจะนำเสนอ และชูอัตลักษณ์ความเป็นน่านผ่านเมนูอาหารท้องถิ่น รวมถึงงานฝีมือ Handicraft และงานฝีมือชุมชน 

สอบถามข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มเติมที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานน่าน โทรศัพท์ 0 5471 1217-8 หรือ Facebook page: ททท.สำนักงานน่าน