เมื่อเวลา 13.25 น.วันที่ 25 ส.ค. 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ได้ประเมินรัฐบาลชุดใหม่อย่างไร เพราะเคยเตือนเรื่องสนิมเกิดจากเนื้อใน ช่วงที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ตั้งรัฐบาลว่า ถือว่าเป็นอย่างที่พูด คือสมัยก่อนพูดถึงเรือแป๊ะ แต่ปี62 พูดถึงเรื่องเหล็กที่มีความมั่นคง แน่นหนา ถาวร ซึ่งรัฐบาลนี้ก็มีความมั่นคง แน่นหนา ถาวร เห็นได้จากอยู่ครบ 4 ปี แต่คำว่าสนิมเหล็ก จะเกิดจากเนื้อในเหล็ก ไม่ได้เกิดจากภายนอก ฉะนั้นเราจึงเห็นว่าความแตกแยกระหว่างคนในรัฐบาลจากพรรคการเมือง คือพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่แยกมาเป็นพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นั่นก็เป็นสนิมเหล็ก และยังมีสนิมอื่นอีกหลายๆสนิม 

นายวิษณุ กล่าวว่า สนิมแรกเกิดตั้งแต่ตอนที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ไม่ได้โควตาคุมเศรษฐกิจตามที่หวังไว้ ก็ค่อยๆ เป็นสนิมเล็กๆ เป็นแผลมาตลอด แต่มันก็หมดไปเมื่อนายสมคิดพ้นจากตำแหน่ง 

เมื่อถามว่า ประเมินรัฐบาลที่กำลังตั้งอยู่อย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่เห็นหน้าตา แต่การที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯคนที่ 30 ได้คะแนนเสียงในสภามากเชื่อว่าจะเป็นรัฐบาลที่แข็งแกร่ง ซึ่งตอนนั้นตนเคยพูดว่าที่พรรคเพื่อไทย(พท.)และพรรคก้าวไกล(ก.ก.) รวมกันแข็งแกร่งยิ่งกว่าเรือเหล็ก แต่มาบัดนี้พรรคก้าวไกลออกไป แต่พรรคพท.ก็ได้พรรคอื่นมาร่วมรัฐบาลจนได้ 314 เสียงก็มั่นคงแน่นอน แต่การที่มีพรรคสนับสนุน 11 พรรค ซึ่งอยู่ในรัฐบาล 6 พรรค โอกาสที่จะกระทบกระแทกกันเป็นเรื่องธรรมดา และก่อนหน้ามาเป็นรัฐบาล ก็เคยขัดแย้งกันมาก่อน ถ้าเรารับหลักการที่ว่าก้าวข้ามขั้ว สลายความขัดแย้ง มันดีทั้งในรัฐบาลและประเทศ แต่จะทำได้หรือไม่ตนไม่ทราบ

เมื่อถามว่า หากสลายสีเสื้อแล้วแสดงว่าจะไม่เกิดสนิมเนื้อใน อีกใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็เขาพูดว่าจะสลาย แต่จะทำได้หรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตนเชื่อว่าถ้าทุกคนตั้งใจพยายามประคับประคองก็ไปได้