วันที่ 16 ก.ย. 2566 นายสุวัจน์  ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) ได้กล่าวขอบคุณนายเศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรี  ขอบคุณพรรคแกนนําพรรคเพื่อไทยที่ได้กรุณาให้เกียรติให้นายเทวัญ  ลิปตพัลลภ  หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ได้เข้าไปเป็น 1 ใน 9 ของคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี

“พรรคชาติพัฒนกล้าเข้าร่วมรัฐบาลครั้งนี้ ไม่ได้มีเงื่อนไขอะไร เมื่อบ้านเมืองมีวิกฤตก็ได้ร่วมมือกันทำให้งานที่ยากลําบากผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เป็นความร่วมมือของ 11 พรรคร่วมรัฐบาลในการที่จะสานต่อรวมพลังกันทํางานในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลให้ประสบความสําเร็จ ฉะนั้น พรรคชาติพัฒนากล้า ยินดีที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการทํางานร่วมกับรัฐบาล” นายสุวัจน์ กล่าว

นายสุวัจน์   กล่าวว่า  การทํางานของรัฐบาล “เศรษฐา 1 “ ทำได้รวดเร็ว อะไรทําได้ทําทันที ถูกใจและตรงกับปัญหาของพี่น้องประชาชน ถ้าสามารถรักษาอัตราความเร็วของการทํางานบวกกับประสิทธิภาพแล้วสามารถจะแก้ไขปัญหาของประเทศได้ ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายระยะสั้น ระยะยาวที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน คือ เรื่องสินค้าราคาแพง, เรื่องลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ค่าแก๊ส ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน, การพักหนี้เกษตรกร, การพักหนี้ SME,  การกระตุ้นเศรษฐกิจในเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท  

ส่วนระยะยาว คือ การสร้างรายได้ สร้างโอกาส และการรักษาคุณภาพชีวิต โดยการเพิ่มรายได้การส่งออกเป็นหลัก, การสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล, การหาตลาดการค้าใหม่, การปรับโครงสร้างการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม แสงแดดทำให้ต้นทุนไฟฟ้าถูกลง,การแสวงหา แก๊ส น้ำมัน ในอ่าวไทย,   การกำหนดโครงสร้างค่าการกลั่นน้ำมัน  ,การสร้างโอกาสให้พี่น้องประชาชนในเรื่องเอกสารสิทธิ์ที่ทำกิน, การหยิบ soft power มาเป็นพลังในการต่อยอดเศรษฐกิจ ต่อยอดอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มีการแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ soft power

“โดยภาพรวมถ้ารัฐบาลสามารถที่จะขับเคลื่อนนโยบายที่ได้แถลงต่อสภาทั้งระยะสั้น ระยะยาวให้เป็นไปตามกรอบ ตามแนวทาง พร้อมรับข้อเสนอของฝ่ายค้านได้จะมีประโยชน์ต่อประเทศชาติ” นายสุวัจน์ กล่าว