วันที่ 24 ส.ค. 2566 ที่รัฐสภา นายณัฐชา บุญอินไชยสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล  ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ว่ามีนัยยะทางการเมืองหรือไม่ ว่า ไม่ได้เป็นเรื่องผิดแปลกอะไรกับการส่งมอบอำนาจ เป็นอำนาจใหม่ที่ประชาชนมีข้อเคลือบแคลงสงสัย เพราะพล.อ.ประยุทธ์ยึดอำนาจจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ  ซึ่งเป็นรัฐบาลจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งยึดอำนาจมาเกือบ 9 ปี สุดท้ายมาส่งมอบอำนาจให้กับพรรค เพื่อไทยซึ่งเป็นสิ่งที่เราสงสัยในหลายประเด็น 

ส่วนการเข้าพบในครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับการที่สว. โหวตให้นายเศรษฐาหรือไม่นั้น นายณัฐชากล่าวว่า หลังจากพรรคเพื่อไทย จับมือกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก็ต้องมีเสียงของ สว.เกี่ยวข้องด้วยแน่นอน เพราะเช้าวันที่โหวตนายกฯ (22 ส.ค.) ตนได้พูดคุยกับสว.ที่รู้จักกัน ก็ยังไม่มีสัญญาณมา แต่โค้งสุดท้าย ก็มีการส่งสัญญาณไฟเขียวโหวตให้นายเศรษฐา ช่วงเวลาระหว่างนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง แน่นอนว่าต้องมีการเจรจากับนอกรอบอย่างแน่นอน

เมื่อถามว่า การพูดคุยของนายกฯ จาก 2 ขั้วอำนาจ จะถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีหรือไม่สำหรับพรรคก้าวไกล นายณัฐชากล่าวว่า คำว่า สมานฉันท์ปรองดอง ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่เบื้องหลังมีการกระทำอะไรบ้าง ที่มีผลกระทบกับประชาชน นี่เป็นเรื่องสำคัญ เพราะฉะนั้นเราต้องรู้ให้ได้ว่า เบื้องหลังของคนที่ขัดแย้งกันมาตลอดระยะเวลาหลายสิบปี สุดท้ายมาจับมือกัน และบอกว่าเป็นการทลายความขัดแย้งที่ยาวนาน "อยู่ดีๆ คนมีปัญหากันมาเป็นสิบปี มาจับมือกัน มันต้องมีข้อเจรจาที่ตกลงกันได้ สิ่งที่ตกลงกันนั้นคืออะไร ประชาชนยังไม่ทราบเท่านั้นเอง" นายณัฐชา กล่าว

เมื่อถามว่า มีอะไรอยากจะฝากถึงคณะรัฐมนตรีใหม่หรือไม่ นายณัฐชากล่าว่า  หน้าตารัฐมนตรีที่ออกมาทั้ง 35 คน จะทำให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น ว่าภายใต้การเจรจา เบื้องหลังเบื้องลึกนั้นมีการเจรจาต่อรองตำแหน่งใดไว้บ้าง และทิศทางที่เจรจาส่งผลกระทบอะไรต่อประชาชน หน้าตาของครม. ก็จะเป็นคำตอบให้กับประชาชนว่า สุดท้ายแล้วรัฐบาลนี้วางอยู่บนความไว้วางใจของประชาชนได้หรือไม่

เมื่อถามว่า เห็นหน้าตาครม. และนายกฯ แล้ว คิดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับยังเป็นไปได้หรือไม่ นายณัฐชากล่าวว่า จากการที่นายเศรษฐา ระบุว่า จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าครม. ในวาระแรก ตนมองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญแก้ไขได้อย่างแน่นอน ถ้านายกฯ มีความตั้งใจ แต่ความจริงใจนั้นต้องพิสูจน์ว่า ที่มาที่ไปของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) จะมาด้วยวิธีการใด ก่อนเลือกตั้งเราพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่าสสร. ต้องมาจากการเลือกตั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ เรื่องนี้คือประเด็นหลัก ไม่ใช่ว่าจะแก้ได้หรือไม่ได้ 

เมื่อถามว่า จะร่างรัฐธรรมนูญควบคู่ไปด้วยหรือไม่ นายณัฐชา กล่าวว่า ต้องทำอย่างแน่นอน