เมื่อเวลา 10.25 น. วันที่ 14 เม.ย. 68 ที่ชุมชนโหล่งฮิมคาว ตำบลสันกลาง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน จะมาเยือนประเทศไทยในวันที่ 17 เม.ย. จะมีการหยิบยกเรื่อง มาตรการกำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกา ที่ได้ส่งผลกระทบกับอาเซียนมาพูดคุยหรือไม่ว่า เป็นการมาแบบเยี่ยมชมการทำงาน (Working visit) กับรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี และมีการชวนที่ปรึกษาประธานอาเซียนจากประเทศต่างๆ หลายคนเข้ามาพูดคุยเรื่องปัญหาภายในอาเซียน เรื่องฐานกำลังผลิตภายในอาเซียน การผนึกกำลังของอาเซียน เพื่อให้มีบทบาทสำคัญในการพูดคุยกับสหรัฐอเมริกามากขึ้น
เมื่อถามว่า ของเรามีวาระอะไรที่จะเสนอเป็นพิเศษหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ก็ต้องคุยกัน รวมถึงจะพูดถึงเรื่องสันติภาพในเมียนมา
เมื่อถามต่อว่า การรวมพลังในกลุ่มชาติอาเซียน เพื่อจะไปคุยกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในเรื่องมาตรการกำแพงภาษี ดูแล้วมีแนวโน้มที่ดีหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เราจะไม่ไปในลักษณะที่เป็นแบบต่อรอง เพื่อแลกนู่นแลกนี่ แต่เราจะคุยกันในลักษณะว่ากลุ่มประเทศอาเซียนส่วนใหญ่ เป็นประเทศที่ต้องการการพัฒนา ต้องการเม็ดเงินจากประเทศที่พัฒนาแล้วอีกจำนวนมากที่จะทำให้เราแข็งแรง ฉะนั้นก็อยากให้เขาเข้าใจในบทบาทของอาเซียน โดยเฉพาะอาเซียนกับภูมิภาคนี้ ที่มีความสำคัญกับสหรัฐฯพอสมควร ตนคิดว่าเราจะคุยกันแบบเป็นพันธมิตรมากกว่าการต่อรองกดดัน
เมื่อถามอีกว่า การไปพูดคุยครั้งนี้แสดงว่าเดาใจนาย โดนัลด์ ทรัมป์ และคนรอบตัว ได้แล้ว ใช่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ส่วนใหญ่รู้จักกันดี ซึ่งคนรอบตัวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็เคยเจอกันมาก่อน
เมื่อถามต่อว่า พูดให้ประชาชนคลายกังวล ได้หรือไม่ว่าการเจรจาของทีมไทยแลนด์ครั้งนี้ผลออกมาน่าจะเป็นบวก นายทักษิณกล่าวว่า น่าจะไหว คงไม่ทำให้ประเทศไทยลำบาก