วันที่ 24 กันยายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทให้แก่กลุ่มเปราะบางในวันที่ 25 กันยายน วันแรกว่า เนื่องจากระบบการโอนผ่านพร้อมเพย์มีข้อจำกัด สามารถโอนได้วันละไม่เกิน 4.5 ล้านคน จึงแบ่งไปตามเลขท้ายบัตรประชาชน กระบวนการเตรียมการทุกอย่างพร้อมสรรพหมดแล้ว โดยจะทำเป็นพิธีกรรมที่นี่ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เวลา 09.00 น. แต่เริ่มโอนจริงๆ ประมาณ 00.00 น. แล้ว
ทั้งนี้ วันนี้ประชาชนสามารถเริ่มเช็กสิทธิ์ได้เลย การที่เรามีการลงทะเบียนมาแล้วของกลุ่มเปราะบาง ปรากฎว่ามีการซ้ำซ้อนกับคนที่มีบัตรสวัสดิการและคนพิการถึง 10 ล้านคน
เมื่อถามว่า เฟสสองจะทันภายในปีนี้หรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ปีนี้น่าจะยาก เพราะติดปัญหาเรื่องระบบ ถามต่อว่า ในไตรมาสแรกของปีหน้าจะทันหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวติดตลกว่า อย่าเอาคำเช่นนั้นเลย ครั้งที่แล้วโดนทวงจนเหนื่อย แต่จะรีบที่สุด เพราะเราทราบว่าความต้องการของประชาชนคือการเร่งรัดในเรื่องนี้
เมื่อถามว่า จะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ อีกหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า มี โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจมีหลายโครงการ ซึ่งดิจิทัลวอลเล็ตเป็นเพียงแค่โครงการหนึ่งเท่านั้น เพราะประชาชนต้องการเงินให้ถึงมือเพื่อแบ่งเบาค่าครองชีพ รวมถึงการรีสกิลและอัปสกิล ที่เป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจ
สำหรับงบประมาณที่จะใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 นั้น จะยังเป็นงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2568 อยู่เหมือนเดิม ส่วนบริษัทที่จะมาพัฒนาแอปพลิเคชั่นสำหรับจ่ายเงินนั้น เขาก็เดินหน้าของเขาอยู่ ตนไม่ได้กำกับดูแลก็ไปข้องแวะไม่ได้
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ยังมีเรื่องการเดินหน้าการพักหนี้ในส่วนของลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ด้วย โดยจะเป็นการพักหนี้และพักดอกด้วย การเดินหน้าการพักหนี้ในส่วนของลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ต่อเนื่องจากที่ทำมา ซึ่งรัฐบาลช่วยเหลือเรื่องการจ่ายดอกเบี้ยด้วยระหว่างที่มีการพักหนี้ อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้รัฐบาลของรัฐภาระเยอะโดยเฉพาะช่วงน้ำท่วม ได้ออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนจำนวนมาก เช่น ธกส.เลื่อนการชำระหนี้ออกไป 1 ปี ไม่ต้องมาเป็นภาระของประชาชนช่วงน้ำท่วม และมีมาตรการระยะสั้น ออกสนเชื่อฉุกเฉินสำหรับอุปโภคบริโภค 5 หมื่นบาท ปลอดดอกเบี้ย 6 เดือน
ขณะที่การซ่อมแซมบ้านเรือน รัฐบาลมีกลไกในการช่วยเหลือเช่นกัน ยังมีหลายธนาคารที่มีมาตรการเพิ่มเติมในการเพิ่มวงเงินสินเชื่อให้กับประชาชนในระยะนี้ และผ่อนปรนเรื่องดอกเบี้ย ทั้งนี้ ประชาชนเงินขาดมือ ธนาคารของรัฐพร้อมช่วย อย่าไปหาเงินกู้นอกระบบ