สยามรัฐยืนหยัดอยู่บนบรรณภิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาณ “นิคฺคณฺเห นิคหารหํ ปคฺคณฺเหปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม” …*...

เงินหมื่นเฟส 2 ที่จะโปรยออกมาใส่มือผู้สูงอายุ 60 ปีก่อนตรุษจีนนี้ แน่นอนว่า จะหวังให้เป็น “พายุหมุนกระตุ้นเศรษฐกิจ” คงยาก แต่ถ้าเป็น “พายุหมุนกระตุ้นเรตติ้ง” รัฐบาล และหวังผลไปถึงการเลือกตั้ง อบจ.นั้น ก็ต้องยอมรับว่า นักการตลาดตัวพ่ออย่าง ทักษิณ ชินวัตร ยังคงเฉียบขาด …*…

 เช่นเดียวกับการเดินหน้าออกไปปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครเลือกตั้งนายก อบจ. ของ “ทักษิณ” ที่ไปปะฉะดะ พรรคประชาชน  และปลุกศัตรูเก่าอย่าง พรรคประชาธิปัตย์ ก็ปลุกกองเชียร์แฟนเก่า  และขับเน้นให้เห็นความสำคัญของพรรคเพื่อไทย ในการเป็นหัวขบวนสู้กับพรรคส้ม…*…

ที่ “ทักษิณ” ต้องออกหน้า ก็เพราะรู้ดีว่า ถ้า “นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะหัวหน้าพรรคเดินสายปราศรัยเอง ย่อมมีความเสี่ยงถูกจับผิด คนเป็นพ่อก็ต้องออกไปประคองลูก แต่ที่สุดเมื่อเต็มไปด้วยดราม่า จึงต้องถอยให้ นายกฯอิงค์ออกมาถือธงนำ ซึ่งเจ้าตัวก็รู้ดีว่า “นักร้องเสียงดี” รอถล่มอยู่ พูดอะไรพลาดไปนิด ก็มีสิทธิตกเก้าอี้…*…

 ไหนจะเรื่องเก่าๆที่ถูกร้องค้างอยู่ 13 เรื่อง และเรื่องใหม่กรณีตั้ง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ที่เพิ่งมีคนไปยื่นอัยการสูงสุด จะเสี่ยงซ้ำรอยตายน้ำตื้นเหมือน เศรษฐา ทวีสิน หรือไม่ แม้ ศรพระราม ดูทรงอาจจะไม่บานปลาย เพราะรายละเอียดของเนื้อหาต่างๆกันกับ พิชิต ชื่นบาน และ กิตติรัตน์ ณ ระนอง  แต่มันก็ทำให้เสียสมาธิ ...*...

ที่มา:ศรพระราม (17/1/68)