ผู้สูงอายุเตรียมรับทรัพย์! เผ่าภูมิ เผยเงิน 10,000 บาท เฟส 2พร้อมโอน 27 ม.ค.นี้ แนะปชช.เร่งเช็คสิทธิผ่านเว็ปทางรัฐก่อน 22 ม.ค.-รีบผูกพร้อมเพย์รัฐโอนซ้ำให้ 3 ครั้ง
เมื่อวันที่ 16 ม.ค.68 ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลจะสนับสนุนเงินจำนวน 10,000 บาทต่อคนแก่ผู้สูงอายุ ที่มีคุณสมบัติเป็นไปตามเงื่อนไขของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ ดังนี้ 1. เป็นผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน ทางรัฐ สำเร็จ (ลงทะเบียนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet สำเร็จ) ที่มีสัญชาติไทยและมีอายุตั้งแต่ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ 15 กันยายน 2567 (เกิดก่อนหรือในวันที่ 16 กันยายน 2507) และมีคุณสมบัติเพิ่มเติม ดังนี้ 1.1 ไม่เป็นผู้มีเงินได้พึงประเมินเกิน 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2566 ข้อ 1.2 ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากรวมกันเกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 ข้อ 1.3 ไม่เป็นผู้อยู่ในสถานสงเคราะห์ในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 ข้อ 1.4 ไม่เป็นผู้ต้องขัง 4 ประเภท ได้แก่ นักโทษเด็ดขาด ผู้ต้องขังระหว่าง ผู้ต้องกักขัง และผู้ต้องกักกัน ตามฐานข้อมูลของกรมราชทัณฑ์ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 ข้อ 1.5 ไม่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ
ดร.เผ่าภูมิ กล่าวต่อว่า ส่วน 2. ตรวจสอบสิทธิผ่านแอปพลิเคชัน ทางรัฐ ได้ตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค. 68 เป็นต้นไป โดยกรอกบัญชีผู้ใช้หรือเลขประจำตัวประชาชน (Username) และรหัสผ่าน (Password) เพื่อ เข้าสู่ระบบ และกด ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เพื่อเข้าสู่หน้าแสดงผลผู้มีสิทธิโครงการฯ 3. ผู้สูงอายุที่มีสิทธิได้รับเงินในโครงการฯ จะได้รับเงิน 10,000 บาท ผ่านบัญชีเงินฝากที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนเท่านั้น (ไม่สามารถรับเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกไว้กับเบอร์โทรศัพท์ได้) ซึ่งสามารถผูกกับบัญชีเงินฝากของธนาคารใดก็ได้โดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นธนาคารของรัฐ ทั้งนี้ ขอแนะนำให้ดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 22 ม.ค. 68 เพื่อรอรับการจ่ายเงินในวันที่ 27 ม.ค. 68
ขณะที่ 4. ควรตรวจสอบกับธนาคารด้วยว่าบัญชีพร้อมเพย์ดังกล่าวยังคงมีสถานะปกติที่สามารถรับเงินโอนได้หรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่าพร้อมรับเงินในวันที่ 27 ม.ค. 68 และ 5. ในกรณีที่จ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายไม่สำเร็จในครั้งแรก จะมีการดำเนินการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) ให้แก่กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวจำนวน 3 ครั้ง ได้แก่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ วันที่ 28 มีนาคม และวันที่ 28 เมษายน 68
รมช.คลัง ยังกล่าวเน้นย้ำให้ผู้สูงอายุ ที่ประเมินว่าตนเองมีคุณสมบัติเป็นไปตามเงื่อนไขของโครงการเร่งตรวจสอบบัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนว่ายังสามารถใช้งานได้หรือไม่ หรือหากยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์ขอให้ดำเนินการเพื่อให้พร้อมรับสิทธิตามโครงการฯ โดยสามารถติดต่อขอผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนกับธนาคารใดก็ได้ในทันที
อนึ่ง เงินที่รัฐสนับสนุนจำนวน 10,000 บาทต่อคน ให้แก่กลุ่มเป้าหมายรวมจำนวนประมาณ 4 ล้านราย สามารถนำไปใช้จ่ายซื้อสินค้าที่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตโดยไม่กำหนดเงื่อนไขการใช้จ่ายแต่อย่างใด
