เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 ก.ย. 67 ที่สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ(สปท.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมรับฟังการแถลงผลการศึกษา ของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 66 วิทยาลัยเสนาธิการทหาร (วสท.) รุ่นที่ 65 วิทยาลัยการทัพบก (วทบ.) รุ่นที่ 69 วิทยาลัยการทัพเรือ (วทร.) รุ่นที่ 56 และวิทยาลัยการทัพอากาศ (วทอ.) รุ่นที่ 58 เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีภายใต้แนวคิด THAI NEXT:เปลี่ยนใหญ่ประเทศไทย โดยมี
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และมหาดไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.การศึกษาธิการ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.ทสส.) พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ท.ทักษิณ สิริสิงห ผู้อำนวยการวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ รอให้การต้อนรับ ทั้งนี้ นักศึกษาวปอ.รุ่น 66 ซึ่งแบ่งเป็น 10 กลุ่ม นำเสนอผลการศึกษา เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติ ให้กับนายกฯและผู้ร่วมงานได้รับฟัง
จากนั้นนายกฯ กล่าวว่า ดิฉันในฐานะรุ่นน้อง หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรสำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วอป.บอ.)รุ่นที่ 1 ซึ่งดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสมารับฟังผลการศึกษาของนักศึกษาในวันนี้ เพื่อนำไปสู่การเปลี่บนแปลงประเทศไทยที่ยิ่งใหญ่ สิ่งที่รับฟังมาจากทุกท่านที่ได้รายงานมานับได้ว่าเป็นสิ่งที่ตรงกับนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา ทั้งการเปลี่ยนความท้าทายต่างๆในทุกวันเป็นโอกาส เป็นข้อเสนอที่ ดิฉันเองและคณะรัฐมนตรี(ครม.)ที่มาในวันนี้ถือว่าเป็นประโยชน์ ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเราเองจะต้องเตรียมความพร้อมเปลี่ยนแปลงปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ในทุกวันให้ได้ การซ่อมรากฐานเพื่อการลงทุนยกระดับคุณภาพ พัฒนาคุณภาพของการศึกษา พัฒนาระบบน้ำท่วมน้ำแล้งทั้งประเทศ และประสานพลังภาคเอกชน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำมซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่เราสามารถสัมผัสได้ เพราะอยู่ในช่วงที่น้ำท่วมพอดี ซึ่งเราได้รับความร่วมมือความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน จึงถือว่ากองทัพ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและรัฐมนตรีทุกท่านที่ช่วยกัน เพราะไม่มีงานใหญ่ใดไม่สามารถใช้องค์กรใด องค์กรหนึ่งหรือคนใดคนหนึ่งที่จะทำให้สิ่งสำคัญเหล่านี้ประสบความสำเร็จไปได้ต้องใช้ความร่วมมือประสานงานทุกภาคส่วน เพื่อให้ประสบความสำเร็จ และสุดท้ายแล้วประโยชน์ทั้งหลายจะตกอยู่กับประชาชน
นายกฯ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ในเรื่องเศรษฐกิจ รัฐบาลสนับสนุนการลงทุน โดยชักชวนนักลงทุนต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนร่วมลงทุนและพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งทำมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายเศรษฐาทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี รวมถึงพัฒนาระบบ Digital Government ซึ่งรัฐบาลสนับสนุนเป็นอย่างมาก เพราะต้องการให้ภาครัฐลดขนาดและลดขั้นตอนต่างๆลง ใชัวันสต็อปเซอร์วิสเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงระบบบริการของภาครัฐได้อย่างรวดเร็ว และสะดวก อย่างการเยียวยาน้ำท่วม ซึ่งได้มีการพูดคุยกับคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อช่วงเช้าอยากจะให้มีการปรับเรื่องเอกสารที่ประชาชนได้รับ เพื่อเร่งรัดขั้นตอนให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
นายกฯ กล่าวอีกว่า สำหรับแนวคิดการพัฒนากองทัพให้เป็นวันทีมทัพไทย ที่จะสร้างความยืดหยุ่นนำเทคโนโลยีทางทหารมาประยุกต์ใช้ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการทำงานทำให้กองทัพเป็นที่พึ่งของประชาชนคนไทย ซึ่งที่ผ่านมาได้เห็นแล้วว่ากองทัพเข้าไปช่วยเหลือประชาชนและได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนที่ดีมากๆ เคยมีคำที่พูดว่ายามสงบเราได้กองทัพมาช่วยในเรื่องปัญหาต่างๆ เช่น ปัญหาน้ำท่วม ปัญหาภัยต่างๆที่ประชาชนเจอยามที่มีศึกท่านก็อยู่แถวหน้า จึงอยากให้กองทัพและประชาชนมีการลดช่องว่างต่อกัน เพื่อประสานงานและการเป็นอยู่ที่ดีขึ้นต่อไปในอนาคตการ
นายกฯ กล่าวด้วยว่า ในเรื่องของตำแหน่งทางการเมืองเป็นเรื่องที่เรามีวาระตามการเมือง และมีข้อจำกัดในเรื่องของเวลาในการทำงาน ซึ่งมีความ เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้การแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่องเป็นโจทย์ที่ท้าทาย และสำคัญมากๆที่เราจะสามารถทำนโยบายเริ่มต้นจนจบให้ได้ใน1 รัฐบาล ซึ่งถือเป็นความท้าทาย แต่แน่นอนว่าด้วยเวลาที่เราพยายามทำนโยบายทุกอย่างให้สำเร็จให้ได้ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน เพื่อประชาชนจะได้รู้สึกว่ารัฐบาลของเรามีความเข้มแข็งและมีประโยชน์ต่อประชาชน
“วันนี้ดิฉันในฐานะนายกรัฐมนตรีก็อยากจะขอโอกาสกับทุกท่านในที่นี้ ประสานกับทุกท่านทั้งข้าราชการ ภาคเอกชน นักการเมืองและอีกหลายภาคส่วนที่มีความสำคัญอย่างมากในการช่วยกันพัฒนาประเทศ เราทุกคนมาร่วมมือกันทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด มีข้อแนะนำซึ่งกันและกัน อย่างวันนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีมากที่รัฐบาลจะรับฟังและนำไปปรับใช้และมาร่วมทำให้ประเทศไทยของเราเป็นประเทศที่มีโอกาสและเป็นประเทศที่คนไทยทุกคนกล้ามีความหวัง เป็นประเทศแห่งโอกาสที่ทำให้ทุกคนภูมิใจในประเทศไทยและทำให้ประเทศไทยมีอนาคตที่ดีกว่า เริ่มตั้งแต่วันนี้จนถึงในอนาคตข้างหน้า” นายกฯ กล่าว