เมื่อเวลา 09.25 น. วันที่ 17 ก.ย. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคอีสานที่ปรากฎภาพโคลนขังอยู่ในบ้านประชาชนจำนวนมากว่า ขณะนี้เราทำเต็มที่ และไม่ได้เกิดจุดเดียว และเราได้สั่งกำลังพล โดยแม่ทัพแต่ภาคก็ดูแล ซึ่งเอาเรื่องชีวิตของคนที่อยู่ในพื้นที่เป็นหลัก อาหารที่เข้าไม่ถึงเราก็ให้เต็มที่ ตรงไหนที่เริ่มคลี่คลายลงก็เริ่มคลีนเพื่อให้เกิดความสะอาด ซึ่งดินโคลนไม่ได้มีแค่ในบ้าน แต่มีตั้งแต่ถนนใหญ่ที่ทำให้เข้ายาก ตอนนี้เราใช้เฮลิคอปเตอร์ แต่ก็ไม่ได้มีจำนวนมาก แต่เราจะพยายามเข้าไปดูให้เร็วที่สุด มีทั้งเครื่องจักร เครื่องกลของกองทัพ กระทรวงคมนาคม และจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทุกหน่วยที่มีอยู่ตอนนี้ก็ทำงานเต็มที่ และที่กำลังจะเกิดขึ้นก็มีหน่วยงานที่เข้าไปพาคนออกมา 

 

นายภูมิธรรม กล่าวว่า โดยเฉพาะจังหวัดหนองคายเราสามารถเอาออกมาได้จำนวนมากพอสมควร และในส่วนที่มีน้ำท่วมแล้ว เราก็ถอนหน่วยซีลจากภาคเหนือไปอยู่ที่ภาคอีสาน และในส่วนเยียวยาพรุ่งนี้ตนจะประชุมอำนวยการที่จะพิจารณาเรื่องนี้ โดยพื้นฐานเดิมก็คือตามข้อบังคับเดิมที่กระทรวงมหาดไทยมี จ่ายก่อนเลยดูแลไป เราเอาความรวดเร็วก่อน และเรากำลังจะพิจารณาเพิ่ม เพราะเงินที่ช่วยเหลือมันไม่เพียงพอต่อความเสียหาย กำลังหามาตรการอยู่ระหว่างสำนักงานงบประมาณ สำนักงานกฤษฎีกา และสำนักนายกรัฐมนตรี  กำลังดูเรื่องเหล่านี้อยู่

 

เมื่อถามว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์จากอินฟลูเอนเซอร์ว่าการช่วยเหลือของรัฐล่าช้า ซึ่งภาคประชาชน กู้ภัย เอกชน มักเดินทางลงไปถึงก่อน และเมื่อภาครัฐลงไปก็มีคนแห่ไปรับ สุดท้ายหน่วยงานก็หายไปเมื่อนายกฯกลับไปแล้ว นายภูมิธรรม กล่าวว่า สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ตอนที่เกิดน้ำท่วมเรายังสั่งการไม่ได้ ได้เพียงแค่บอกว่าเราเป็นห่วงประชาชน แต่หลายหน่วยงานก็เข้าไปตั้งแต่คืนแรกที่ฝนตก เข้าไปถึงบ้านพักลำเลียงผู้คนออกมา ตนว่าใครไปก่อนไปหลังไม่ใช้ประเด็น แต่ต้องช่วยกันทำ ใครเข้าไปก่อนก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาเคลมว่าเห็นใจ สนใจแล้วเข้าไปก่อน เข้าไปเถอะ เข้าก่อนเข้าหลังไม่เป็นไร ดีกว่าไม่เข้า  ประชาชนเข้าเดือดร้อน เขาไม่สนใจว่าใครเข้าก่อนเข้าหลัง ส่วนพวกเราระวังอยู่แล้ว ควรไม่ควรที่จะกระทบ ไม่จำเป็นต้องมาดูแล เอาแค่บุคคลที่เกี่ยวข้องมาดูแล ไม่งั้นมันก็ยาก ไม่ไปก็ว่าไม่สนใจ เข้าไปก็บอกว่าต้องมีคนแห่แหนมา นี่เป็นค่าความเข้าใจเดิมมองไปแบบนั้น ตนคิดว่าต้องมองใหม่ วันนี้ข้าราชการเขาเข้มแข็ง 

 

"วันนี้กระทรวงคมนาคมเขาไปสร้างสะพานแบริ่ง ตอนนี้เราให้ความสำคัญกับบนเขาที่ทางขาด อาหารไม่มี  กองทัพก้เข้าไปหย่อนอาหารให้โดยเฮลิคอปเตอร์ หน่วยทหารกับทางหลวงชนบทก็ขึ้นไปซ่อมทางให้อยู่ ไฟฟ้าก็พยามจะทำถ้าตรงไหนน้ำแห้งแล้ว นำดิบก็กำลังกรองกำลังจัดการเพื่อให้สามารถกินได้ ฉะนั้นต้องให้กำลังใจทุกหน่วยงาน อย่าไปพูดบั่นทอนความรู้สึก ความตั้งใจดีของแต่ละคน อยากให้มองบวก และส่งเสริมให้กำลังใจ ดีกว่ามาตั้งคำถามแล้วบั่นทอนกำลังของคนทำงาน" นายภูมิธรรมกล่าว