วันที่ 18 ก.ค.67 เพจเฟซบุ๊ก ชินวัฒน์ ตั้งสุทธิจิต โพสต์ภาพ พร้อมข้อความระบุว่า...
เมืองลางจง
๏ สายน้ำผสานเขาเข้าเป็นแดน
พ้นตะวันจันทร์แทนเวิ้งว้างว่าง
แบ่ง หยิน-หยางแควค้อมล้อมอำพราง
ราวจัดวางฝั่งนทีบุรีเรือง
๏ เนินขุนเขาคล้ายเต่าเป็นเงาห่ม
สยายพรมการค้ามาเนืองเนื่อง
ให้สมดุลพูนสุขไปทุกเมือง
แดนขุนศึกลือเลื่องแต่เบื้องบูรพ์
๏ แลสุดน้ำสุดฟ้าสุดตามอง
นกแดงผันผยองล้อไอยสูรย์
อมตะนิรันดร์นั้นเทิดทูน
ทวีคูณเทือกทิวเมฆปลิวปราย
๏ ฟ้อนฟ้าคะนองฤทธิ์โดยสิทธิ์เหิน
ร่อนบินเพลินฤทธีมณีฉาย
มังกรเขียวเริงแดดอันแผดพราย
จนรุ้งสายแรฟ้าเหนือผาชุม
๏ ภูพยัคฆ์ประจำเนินประเชิญที่
ขาวสวยสีปลุกขวัญประชันกลุ่ม
เอกภพขุนเขาเข้าครอบคลุม
ชะโงกงุ้มกลมกันอนันต์กาล
๏ ปรับสมดุลอิ่มอุ่นทุนชีวิต
ปรับตามทิศกว้างใหญ่แผ่ไพศาล
นำความรู้เป็นสิ่งศฤงคาร
จักรวาลสัมพันธ์กันนั่นเอย ๚
มหา สุรารินทร์
เมืองโบราณลางจง-เมืองเตียวหุย
11 มิถุนายน 2567 เวลา 18.00น.
เมืองโบราณลางจง:สุสานเตียวหุย เมื่อเล่าปี่ครองเสฉวน เตียวหุยได้มาปกครองเมืองปากุน/ปาเส(ลางจงในปัจจุบัน)แทนแม่ทัพเฒ่าเงียมงันอยู่ที่เมืองนี้อยู่7ปีจนถึงมรณกรรมไม่สมศักดิ์ศรีขุนศึกผู้เหี้ยมหาญ
คนปากกับใจตรงกันลายมือย่อมตรงไม่คดใจร้อนแต่มือเย็นชอบปลูกต้นไม้เขียนอักษรแถมมีลูกสาวสวยสองคนได้เป็นฮ่องเฮาแห่งจ๊กก๊ก
อาหารเลิศรสขึ้นชื้อที่นี่คือเนื้อเตียวหุยเป็นเนื้อเย็นสีแดงเก็บถนอมอาหารไว้ได้นานเป็นของฝากอย่างกินกับแกล้มก็ดีผัดใส่ผัดทำข้าวผัดก็อร่อย ได้มาพอให้หายคิดถึงเสมือนมาเยี่ยมพี่ชายต่างยุคทวิภพางสัยค่ำนี้แวะดื่มคาราวะเสียหน่อย
สถานี่แรกต้องแวะคือศาลเจ้าเตียวหุย 张飞庙อันเป็นทั่งศาลเจ้าแบะสุสานฝั่งร่างของน้องสามแห่งสวนดอกท้อ
สี่แยกกลางถนนโบราณมีหอสูงขึ้นไปชมเมืองได้คือหอฮวากวงโหลว 华光楼 อันงดงามโดดเด่นเป็นสัญลักษณ์ของเมืองภายในเมืองมีถนนโบราณ บ้านเรือนแบบซื่อเหอย่วน ที่มีเอกลักษณ์พิเศษ ออกแบบคล้ายตัวอักษร 品 และตัวอักษร 多 ได้อย่างน่าทึ่ง มีการแกะสลักบานประตู หน้าต่างอย่างวิจิตรชดช้อย สถานที่สอบจองหงวนข้าราชการยุคโบราณ –ชวนเป่ยเต้าก่งย่วน 川北道贡院 สมัยราชวงศ์ชิงเมืองลางจงเป็นสนามสอบซึ่งจะมีเหล่าบัณฑิตเดินทางไกลเพื่อมาสอบหลายคนบรรลุเป้าหมายดั่งใจฝันบางคนต้องเที่ยวไปเที่ยวเพื่อเพียรสอบ
เมืองลางจงเป็นจุดกำเนินศาสตร์ฮวงจุ้ยฮวงจุ้ย คือ ศาสตร์จีนโบราณในการสร้างสภาพแวดล้อมในธรรมชาติกับความเป็นอยู่ของมนุษย์ให้มีความสมดุลและนำมาซึ่งความสำเร็จในชีวิต ตามสำเนียงเต้จิ๋วคำว่า ฮวงจุ้ย มาจากคำว่า ลม(ฮวง)และ น้ำ(จุ้ย)ออกจากโรงแรมแล้วนั่งรถแล้วเดินมาจุดชมวิวบริเวณเขาเจดีย์ขาว สามารถเห็นผังเมืองซึ่งตัวเมืองเก่าสร้างเป็นลักษณะฮวงจุ้ย “หยิน และหยาง” ล้อมรอบด้วยแม่น้ำเจียหลิงเจียง คล้ายอักษรโรมัน “ Ω “ ด้านเหนือเป็นภูเขาเต่าดำ ภาคใต้เป็นดอยนกแดง ตะวันออกเป็นเทือกเขามังกรเขียว และตะวันตกเป็นเขาโดดเสือขาว ซึ่งถือเป็นเมืองที่มีศาสตร์ฮวงจุ้ยโดยสมบูรณ์แบบตั้งแต่สมัยโบราณ โดยเฉพาะถ้าขึ้นไปบนเขาไป่ถาดซานเพื่อมาดูมุมสูงเมืองลางจงที่มีแม่น้ำเจียงหลิงเจียงไหลโค้งเหมือนตัวSคล้ายสัญลักษณ์ลัทธิเต๋า
โดยผังเมืองโบราณนี้ถูกวางผังเมืองโดย“หยวนเทียนกัง” และ “หลี่ฉุนเฟิง” นักดาราศาสตร์ที่ลือชื่อในสมัยต้นราชวงศ์ถังซึ่งเป็นชาวเมืองลางจงและเข้าไปทำงานในราชสำนักถัง-โจว ฮวงจุ้ย เป็นศาสตร์แห่งการพยากรณ์ของชาวจีนในการเลือกสรรทำเลที่ตั้งของ สถานที่ทั้งสำหรับคนเป็นและคนตาย โดยยึดหลักแห่งความสมดุลของสภาพแวดล้อมให้มี ความกลมกลืนกัน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองแก่คนในครอบครัวและลูกหลาน
ชินวัฒน์ ตั้งสุทธิจิต - มหา สุรารินทร์