หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ยืนหยัดฟันฝ่า ทุกอุปสรรค ทุ่มเท ทำงานรับใช้สังคม นำเสนอความจริง ผลงานก้าวสู่ปีที่ 74 เป็นเครื่องพิสูจน์ ...*...

จับตากันแทบไม่กระพริบ ว่าในห้วงสัปดาห์นี้ “กกต.” จะประกาศรับรอง “ว่าที่สว.ใหม่” ที่ผ่านกระบวนการเลือกเสร็จสิ้นลงไปแล้ว เวลานี้มีเสียงดังอื้ออึงจาก “ว่าที่สว.” ที่รอจ่อคิวจะเข้าไปนั่งใน “สภาสูง” จี้ให้ “กกต.” เร่งประกาศรับรองก่อน ส่วนใครที่มีปัญหาเรื่องร้องเรียน มีข้อสงสัยประเด็นทุจริต หรือเข้ามาโดยไม่ตรงกับสายอาชีพ ก็ขอให้ “แขวน” เอาไว้ก่อน  แล้วค่อย “สอย” กันภายหลัง ...*...

ทว่าหลายฝ่ายก็อ่านใจ “กกต.” ว่า ถ้าประกาศรับรอง “ สว.ใหม่” กันไปก่อน แล้วเรื่องร้องเรียนที่ประเดประดังกันเข้ามา หลังเลือกสว. จบลงไปแล้ว จะว่าอย่างไรกัน ก่อนหน้านี้ “อิทธิพร บุญประคอง” ประธานกกต. ให้สัมภาษณ์กับสื่อไว้แล้วว่า อย่าใช้คำว่า “เลื่อนรับรอง” เนื่องจากขณะนี้ กกต.อยู่ในกระบวนการพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จก่อน จึงจะสามารถประกาศรับรองเลือก สว.ได้ ...*...

การพิจารณา เรื่องร้องเรียน หลังเลือกสว.เสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 67 ที่ผ่านมา พบว่า มีทั้งสิ้น 614 เรื่อง มีทั้งเรื่องขาดคุณสมบัติ ขอให้ลบชื่อ เรื่องความไม่สุจริต มีการว่าจ้างลงสมัคร เรียกรับให้ลงคะแนน รวมถึงการร้องว่ามี “นักการเมือง” ช่วยเหลือ  หมายความว่า ในมือ “กกต.” มีร้องร้อนๆ ที่ต้องเร่งเคลียร์ เร่งตรวจสอบ  ดังนั้นอาจต้องใช้เวลา ...*...

แต่สำหรับ “ว่าที่สว.ใหม่” ก็อยากเข้ามาทำงาน เพื่อ “จี้” ให้ “250 สว.เก่า” ลุกออกไปโดยเร็ว ที่สำคัญไปกว่านั้น “ว่าที่ สว.ใหม่” ก็หวั่นใจว่า จะมีรายการ “ล้มกระดานเลือกสว.” ขณะที่ “สว.เก่า” ก็ยังมี “แอคชั่น” อยู่และจะอยู่ไปจนกว่า “สว.ใหม่” จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้นวันนี้ “กกต.” จึงอยู่ในสภาพ “ตำบลกระสุนตก” เมื่อ “ว่าที่สว.ใหม่” บีบให้เร่งประกาศรับรอง ส่วน “สว.เก่า” กดดันให้กกต.ตรวจสอบสารพัดปัญหา ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่ม “กระบวนการเลือกสว.”  ยันกันไป ยันกันมาแบบนี้ “ความเสียหาย” จะไปตกที่ใคร ...*...

ยังไม่นับปัญหาที่จะเกิดตามมาจากนี้ เมื่อ “สภาสูง” ที่มาจากพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งวุฒิสมาชิก พ.ศ.2561 ที่มีเจตจำนงต้องการให้เกิดความหลากหลายได้ผู้คนมาเป็นตัวแทน จากหลากหลายวิชาชีพ  พร้อมกันนี้ยังสร้างรูปแบบ “สุดซับซ้อน” เพื่อป้องกันไม่ให้ “การเมือง” เข้ามาแทรกแซง  ปิดทางไม่ให้ “นักการเมือง” มีบทบาทใน “สภาสูง”  แต่ในที่สุด “สิ่งที่คิด” กับ “ความเป็นจริง” ที่เกิดขึ้น “สวนทาง” อย่างที่เห็น เมื่อกลไกอันซับซ้อน ไม่อาจ “สกัด” การเมือง ปัญหาการฮั้วลงคะแนน จ้างคนมาลงคะแนน ไปถึงจน “โพยชื่อ” ปลิวให้ว่อน ได้อย่างแท้จริง ดังนั้นจากนี้ไป โปรดติดตามรอดู “ละครโรงใหญ่” ในชื่อ “200 สว.” จะสนุกสุดเหวี่ยงกันแค่ไหน ? ...*...

ที่มา:พันแสง (08/07/67)