อัจฉริยะ ประธานชมรมช่วยเหลือเยื่ออาชญากรรมลงพื้นที่อำเภอดอนตูม ประสานผู้กำกับการตำรวจสถานีตำรวจภูธรดอนตูม จังหวัดนครปฐม ช่วยแม่เลี้ยงเดี่ยวลูก 4 คน ถูกเจ้าหน้าที่รายวันตามราวีต้องปิดห้องเช่าอยู่ 5 ชีวิต หลังรอมรดกในส่วนของทายาทของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจจังหวัดอุดรธานี โดยมอบเงินสด 1 แสนบาท พร้อมให้กำลังใจลุกขึ้นยืน พาลูก 4 คนได้ชีวิตใหม่อีกครั้ง
วันที่ 20 มิถุนายน 2566 ที่อำเภอดอนตูมผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเย็นวันที่ 19 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมพร้อมด้วย พ.ต.อ.ณฐพงษ์ มุกดาหาญ ผกก.สภ.ดอนตูม ร.ต.อ.อมรชัย ฤกษ์ดี รอง สว.สส.สภ.ดอนตูมและข้าราชการตำรวจ สภ.ดอนตูม ร่วมติดตามช่วยเหลือ น.ส.สรัญญา ที่ได้รับความเดือดร้อน เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวลูก 4 คน กรณีถูกเจ้าหนี้รายวันตามทวงหนี้ จนต้องปิดห้องเช่า อาศัยทนความร้อนอยู่กับลูกอีก 4 คน และรอรับมรดกในส่วนของทายาทของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจจังหวัดอุดรธานี ซึ่งยังไม่ได้รับเงินในฐานะทายาท โดยล่าสุดได้มีการโอนเงินมาแล้ว 1.4 แสนบาท หลังจากประสานรอรับเงินมานานหลายเดือน โดย นายอัจฉริยะฯ ได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวน 100,000 บาท พร้อมทั้งมอบสิ่งของอุปโภคบริโภค ไว้สำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน และซ่อมรถจักรยานยนต์ไว้ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน
โดย นางสาวสรัญญา อายุ 35 ปี ที่อยู่ตามบ้านเลขที่ 31/4 หมู่ที่ 11 ต.ลำเหย อ.ดอนตูมจ.นครปฐม แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวซึ่งเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมีลูกๆ 4 ชีวิตที่ต้องดูแลกล่าวว่า ต้องขอขอบคุณนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมพร้อมด้วย พ.ต.อ.ณฐพงษ์ มุกดาหาญ ผกก.สภ.ดอนตูม ร.ต.อ.อมรชัย ฤกษ์ดี รอง สว.สส.สภ.ดอนตูมและข้าราชการตำรวจ สภ.ดอนตูม ที่ได้เข้ามาช่วยเหลือได้นำ100,000 บาท พร้องสิ่งของใช้ในครัวด้นอุปโภคบริโภคจำนวนหนึ่งใช้ในการดำรงค์ชีวิตประจำวันและเงินดังกล่าวนำไปชำระค่าหนี้สินเงินกู้รายวัน 2 เจ้าค่าเช่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ซึ่งก่อนหน้านี้มีหนี้สินรายวันและค่าเช่าห้อง ที่ยังแก้ไขปัญหาชีวิตไม่ได้
ทางนายนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้นำเงินจำนวน 100,000 บาทมาปิดหนี้สินให้กับตนเองหมดแล้วและจะนำเงินที่เหลือจากชำระหนี้สินเอามาต่อยอดค้าขายก๋วยเตี๋ยวเหมือนเดินและเงินที่เหลือก็จะเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาให้ลูกและได้นำเงินไปจ่ายค่าเทอมให้ลูกและตนเองก็ดีใจที่ลูกไปโรงเรียนแล้วไม่โดนทวงค่าเทอมของลูก ตนเองคิดว่าจะขายก๋วยเตี๋ยวเหมือนเดิมและเพิ่มซื้อจักรเย็บผ้ามารับจ้างเย็บผ้าเพิ่มรายได้อีกทาง สภาพจิตใจดีขึ้นสบายใจขึ้นที่ได้ปิดหนี้สินไปแล้วและก็จะมีหนี้เล็กน้อยทำกินไปก็พออยู่ได้
ต่อมาในวันเดียวกันนางสาวสรัญญา อายุ 35 ปี ได้บอกอีกว่า ได้รับข่าวดีมีข้อความจากธนาคารแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีหลังจากที่ตนเองเข้าไปตรวจสอบดูพบว่ายอดเงินจำนวนดังกล่าวเป็นยอดเงินมรดกจากสหกรณ์ตำรวจที่ตนเองเคยยื่นเอกสารขอรับไปได้รับครบถ้วนตามจำนวนราว 1.4 แสนบาทอีกด้วย