"อัจฉริยะ " ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ให้ตรวจสอบบิ๊กข้าราชการ หลังพบข้อมูลข้าราชการรั่วไหลให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์
วันนี้ (23 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 สำนักปลัดนายกรัฐมนตรี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ได้เดินทางมาเข้ายื่นหนังสือถึงนางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ตั้งกรรมการตรวจสอบการปกปิดข้อมูลของบิ๊กข้าราชการ ในกรณีข้อมูลข้าราชการบำนาญของนายพลทหาร ตำรวจ และหน่วยงานราชการอื่น ๆ ที่มีประวัติ เบอร์โทรตกไปอยู่ในขบวนการแก็งคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 23,000 รายชื่อ โดยมีเหยื่อที่โดนกระทำแล้ว 296 รายและถูกดูดเงินไปจำนวน 48 ราย โดยไม่ยอมแจ้งเหยื่อที่รายชื่อหลุดไปให้เจ้าของรายชื่อทราบ หากพบการกระทำความผิดขอให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไปทั้งทางวินัยและอาญา ผ่านนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
โดยนายอัจฉริยะได้นำเอกสารหลักฐานที่อ้างว่าเกี่ยวกับกรณีกรมบัญชีกลางมีการปกปิดข้อมูลบัญชีรายชื่อของข้าราชการบำนาญ เช่น ตำรวจ ทหาร จำนวน 23,000 รายชื่อ ถูกนำไปขายให้กับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สืบเนื่องจากคดีนี้กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 2 ได้มีการจับกุมขบวนการคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567 หลังจากนั้นได้มีการขยายผลตรวจยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ปรากฏว่ามีรายชื่อของข้าราชการระดับสูงจำนวนมากที่ถูกนำข้อมูลไปขายให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลมีจำนวนทั้งสิ้น 296 ราย ที่มีการไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ทั่วราชอาณาจักรว่าถูกขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก ซึ่ง 48 ราย สูญเสียเงินกว่า 100 ล้านบาท พบรายที่สูญเสียเงินมากที่สุดกว่า 10 ล้าน
นายอัจฉริยะ กล่าวด้วยว่ากรมบัญชีกลางมีหน้าที่หน้าที่ต้องจ่ายเงินให้กับข้าราชการแต่ข้อมูลเหล่านี้กลับหลุดไปยังขบวนการคอลเซ็นเตอร์ รวมทั้งยังพบว่ามีข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อปปช.ด้วย ซึ่งกรมบัญชีกลางปกปิดเรื่องนี้
โดยอธิบดีกรมบัญชีกลางอ้างว่าข้อมูลหลุดไประหว่างที่มีการปรุงระบบ และไม่ได้แจ้งให้กับประชาชนทราบ รวมถึงไม่ให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPA ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมในการสืบสวนสอบสวนข้อมูล ปัจจุบันยังไม่มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบอธิบดีคนดังกล่าว จึงมาร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรี ขอให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงบิ๊กข้าราชการเนื่องจากเกิดความเสียหายจำนวนมากต่อประชาชน
