นายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ ที่ปรึกษาฝ่ายการเมืองของรองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันนี้มีการปล่อยข่าวถุงขนม 2000 ล้านบาท จากนพ. วรงค์ เดชกิจวิกรม นักการเมืองขาประจำ ซึ่งเห็นแล้วสังเวทใจ เป็นการปูดข่าวที่ไร้สาระ ไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิง โดยมีข้อสังเกตว่าข้อมูลดังกล่าวไม่อาจเป็นไปได้ เนื่องจาก เมื่อดูจากไทม์ไลน์เกี่ยวกับการดำเนินคดีนี้ ณ วันที่กล่าวอ้างว่ามีการเดินทางไปฮ่องกงของผู้เกี่ยวข้อง จะเห็นได้ว่าขณะนั้นยังไม่มีคดีไปสู่ศาลแต่อย่างใด ส่วนคดีนายกเศรษฐาก็ยังไม่มีการร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเช่นกัน จึงเป็นการกล่าวหาผู้บริหารศาลอย่างไม่เป็นธรรม เพราะคดีนี้อัยการสูงสุดสั่งฟ้องคดีในวันที่ 29 พฤษภาคม 2567 ปรากฏหลักฐานชัดแจ้งตามเพลสรีลิสต์ของอัยการที่แถลงข่าวต่อสาธารณะ
ทั้งนี้ สาระสำคัญเรื่องไทม์ไลน์ทำให้เห็นได้ว่าหากแม้ผู้บริหารศาลจะเดินทางไปฮ่องกงก็ตาม ณ เวลาที่เดินทางยังไม่มีคดีใดๆของท่านทักษิณ ชินวัตร หรือนายกเศรษฐาไปสู่ศาลและที่เป็นสาระสำคัญ ณ ช่วงเวลานั้นทอัยการสูงสุดจะสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องคดีหรือหรือไม่ ก็ยังไม่เป็นข้อยุติ จนเวลาดำเนินมาจนถึงวันที่ 29 พ.ค.67. ถึงมีข้อยุติว่าอัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องคดีนี้ ทำให้เห็นว่าช่วงเวลาของการเดินทางผู้บริหารศาล กับช่วงเวลาที่อัยการสูงสุดสั่งฟ้องคดี ไม่สัมพันธ์กันที่จะมาเป็นเหตุกล่าวหาผู้บริหารศาล การที่คดียังไม่อยู่ในชั้นศาล คงไม่มีใครเสียสติจะไปวิ่งคดีเพื่อให้ช่วยเหลือในเรื่องสิ่งใดในขณะที่อัยการสูงสุดจะฟ้องคดีหรือไม่ก็ยังไม่รู้เลย
ประการต่อมา กฎหมายกาสิโนในประเทศประเทศไทยยังไม่ได้ผ่านการพิจารณาหรือมติจากรัฐสภาที่มีทั้งสส.และสว. ให้บังคับใช้เป็นกฎหมายแล้ว เท่ากับขณะนี้ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายอนุญาตให้จัดตั้งกาสิโนหรือเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ยังมีการไล่จับบ่อนการพนันอยู่ในขณะนี้ ดังนั้นโดยหลักการและเหตุผลคงไม่มีเจ้าของบ่อนกาสิโนหรือนักธุรกิจที่ลงทุนเกี่ยวกับเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์เอาเงินถึง 2000 ล้านบาท หรือหลายร้อยล้านดอลลาร์ มายุ่งเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เพราะเมื่อไม่มีกฎหมายมันจึงไม่มีแรงจูงใจใดๆ ที่จะทำให้เจ้าของบ่อนหรือนักธุรกิจรายใด เสียสติมาทำเรื่องโง่โง่ จ่ายเงินล่วงหน้าแบบนี้
โดยสรุปเป็นขบวนการเด็กเลี้ยงแกะ ปั้นน้ำเป็นตัว ทำเป็นขบวนการ คนปูดข่าวเป็นอดีตนักการเมืองที่นับวันชีวิตตกต่ำลง แม้บ้านเกิดตัวเองยังไม่มีใครเลือก หากจะสร้างราคาทางการเมืองก็ควรเอาเรื่องที่เป็นสาระไม่ใช่มุ่งหวังแต่ทำลายล้างทางการเมือง ทำลายคู่แข่ง ทำลายฝ่ายตรงข้าม โดยไม่สนวิธีการ เพียงแค่ต้องการอำนาจ แล้วตัวเองจะได้ดิบได้ดี เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง