เมื่อวันที่ 29 พ.ย.67 นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรจะเดินทางไปทำเนียบฯ วันที่ 9 ธ.ค. เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกฯ ระบุถ้ามีความจำเป็นหรือสถานการณ์สุกงอมจะนำม็อบลงถนนว่า ภาพจำของตนที่มีต่อนายสนธิ คือการเป็นแกนนำม็อบมีเส้น ปิดทำเนียบ ปิดสนามบิน สร้างความเสียหายให้กับประเทศในเวลานั้น ซึ่งวันนี้ตนเองก็ยังลืมไม่ลง ตนยังไม่เห็นความจำเป็นใดๆ ที่นายสนธิ จะต้องก่อม็อบประท้วงรัฐบาล ประเทศชาติเสียหาย ทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยว การลงทุนที่กำลังมีสัญญาณแนวโน้มดีสุดๆในรอบ 10 ปี ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เราควรสร้างความหวังเติมกำลังใจให้คนไทยมากกว่า รัฐบาลเองก็กำลังจะให้ของขวัญประชาชนด้วยนโยบายพักหนี้ นายสนธิไม่ควรก่อม็อบค้าความขัดแย้ง ถ่วงรั้งขัดขวางความเจริญประเทศชาติ ตนจำได้ว่า เมื่อ 5 ปีก่อน นายสนธิเคยประกาศหลังได้รับพระราชทานอภัยโทษออกจากเรือนจำว่าจะให้ความรู้คน ไม่ออกมาลงถนนแล้ว แต่วันนี้ทำไมถึงจะกลับคำออกมานำม็อบ มีวาระอะไรแอบแฝงหรือมีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่ เมื่อสำรวจแนวร่วมเครือข่ายก็ไม่มี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทุน ทหาร หรือพรรคการเมือง อีกทั้งยังไม่มีชนวนเหตุอะไร การประกาศจะออกมาเคลื่อนไหวจึงดูไม่ปกติ

วันนี้รัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลย กรณีปลุกกระแสคลั่งชาติบอกว่าไทยจะเสียดินแดนให้กัมพูชานั้น ข้อเท็จจริงคือรัฐบาลยังไม่เริ่มนับ 1 เลย แต่ไปมโนสร้างเรื่องปลุกปั่นกันไปไกล ประหนึ่งว่าไทยเสียดินแดนไปแล้ว ตนอยากให้ผู้ที่คิดจะเดินตามนายสนธิ ช่วยตั้งสติอย่าให้อคติเบียดบังจนหน้ามืดใจบอด และอยากฝากไปยังแนวร่วมเครือข่ายฝ่ายสนับสนุนม็อบ ควรตรวจสอบกรองข่าวให้ดี ไม่ควรหลงเชื่อคล้อยตามนายสนธิ ทุกอย่าง ประเทศชาติจะเสียหาย ถ้าทำผิดกฎหมายภัยก็จะมาถึงตัวท่านเองด้วย