ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2567 ได้มีการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทยจำกัด ที่ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี โดยมีรองศาสตราจารย์พิเศษพลโท ดร.วีระ วงศ์สรรค์ ประธานชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด หรือ ชสอ. เป็นประธานการประชุม มีสหกรณ์ออมทรัพย์ทั่วประเทศเข้าร่วมถึง 1,103 สหกรณ์
จากนั้น มีการเลือกกรรมการดำเนินการ ชสอ. 8 ตำแหน่ง เพื่อ ทดแทนตำแหน่งที่หมดวาระ โดยมีผู้สมัคร จำนวน 22 หมายเลข ให้ผู้แทนจากสหกรณ์ออมทรัพย์ทั่วประเทศได้เข้าคู่หา ลงคะแนนเลือกตั้งอย่างพร้อมเพรียง
ขณะที่นายนินนาท พัฒนวิบูลย์ ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานบริษัทการบินไทย จำกัด ผู้สมัคร หมายเลข 10 จาก ทีมรวมพลังรักษ์สหกรณ์ได้ 340 คะแนน พลาดตำแหน่ง กรรมการ ชสอ. แต่ได้ออกมาขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่เลือกทีมรวมพลังรักษ์สหกรณ์ สำหรับพันธมิตรทุกสหกรณ์ขอยืนยันว่า ตนเอง จะดูแลต่อไปตาม นโยบายที่ได้ให้ไว้ แม้ในวันนี้จะไม่ได้รับเลือก แต่หากมีโอกาสมารับใช้ชาวสหกรณ์ครั้งต่อไปก็ยินดี และหลังจากนี้พยายามจะทำให้ดีที่สุดโดยคอยช่วยเหลือพันธมิตรทุกสหกรณ์ต่อไป พร้อมหวังว่าชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ชสอ. จะเป็นที่รัก ที่พึ่งของชาวสหกรณ์ตลอดไป ขณะเดียวกันขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่เลือก พ.ต.ต.สุวิทย์ มากด้วง หมายเลข 8 จากทีมรวมพลังรักษ์สหกรณ์ ที่ได้รับเลือก เป็นกรรมการ ชสอ.
นายนินาท ยังย้ำว่า แม้จะพลาดการเลือกตั้ง กรรมการ ชสอ. แต่การขับเคลื่อนงานของสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานการบินไทยฯ ยังไม่ย่อท้อ และเดินหน้าพัฒนาต่อไป เช่นหากมีโอกาสในการที่จะดำเนินการสัมมนาต่างๆก็จะรวบรวมข้อมูลต่างๆนำเสนอให้กับหน่วยงานหลักตามหลักการที่ได้พูดคุยไว้ และพร้อมช่วยเหลือพันธมิตร ในการให้คำปรึกษา โดยจะนำประสบการณ์ที่แก้ไขในสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานการบินไทย ฯ มาใช้ เนื่องจากสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานการบินไทยฯใหญ่เป็นอันดับต้นของประเทศมีความพร้อม เพราะมีทุนดำเนินการกว่า 45,000 ล้านบาท ดังนั้นหากพันธมิตรสหกรณ์มีปัญหา ก็พร้อมที่นำองค์ความรู้ที่มี มาแก้ไขให้ทุกสกรณ์และจะช่วยเหลือเหมือนเดิมทุกประการ เพราะที่ผ่านมาสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานการบินไทยฯ ได้ให้การช่วยเหลือเงินกู้ กับสหกรณ์ที่มีปัญหาไปมากกว่า 1,000 ล้านบาทแล้ว
“ส่วนการขับเคลื่อนสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานการบินไทยฯในปีนี้พยายามให้การตั้งค่าเผื่อสำรองหนี้ลดลงให้ได้มากที่สุด และการทำตามนโยบายของรัฐบาลที่ทำให้พนักงานทุกท่านได้มีเงินในกระเป๋ามากขึ้น แต่สิ่งเหล่านี้ต้องใช้เวลาในการดำเนินการ ซึ่งสหกรณ์ของเรามีการออกนโยบายไปหลายแบบในการช่วยเหลือพนักงาน เน้นให้สมาชิกมีรายได้ในกระเป๋าที่มากขึ้นและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ดังนั้นจะใช้ประสบการณ์นี้ถ่ายทอดไปยังพันธมิตรทุกสหกรณ์อย่างต่อเนื่อง ”นายนินนาทกล่าว