วันที่ 17 พ.ค.67 เพจเฟซบุ๊ก ชินวัฒน์ ตั้งสุทธิจิต โพสต์ภาพ พร้อมกลอนระบุว่า...
หมู่บ้านหวงเจียวาน
๏ เป็นกระจกส่องเพื่อนแทนเรือนใจ
ครั้นเดินไปผูกจิตที่คิดฝัน
ปรับเปลี่ยนเรียนรู้คู่ชีวัน
อยู่เป็นขวัญมองเห็นความเย็นทรวง
๏ เติมเต็มที่หายกระจายหน
คิดถึงคนเคยเห็นคนเป็นห่วง
ยามชีวิตเสน่หาสุดาดวง
เลยลับล่วงบรรเลงครวญเพลงคลอ
๏ เก็บดาวเดือนเกลื่อนฟ้ามาร้อยฝัน
ว่าคนนั้นมีใครห่วงไหมหนอ
เมื่อคืนวันจะผันห่างต่างตารอ
ถึงไม่ท้อแต่แตกพลัดกระจัดกระจาย
๏ ฝากลำนำแทนเพลงบรรเลงแผ่ว
ถึงเกลอแก้วหลับฝันถึงจันทร์ฉาย
เรือนใจเรือนจรเคียงมาเรียงราย
อย่าแหนงหน่ายห่วงแหนยิ่งแสนไกล
๏ มองให้เห็นความเหมือนในความต่าง
ระยะห่างของชีวิตที่พิสมัย
กาลเวลาวนเวียนชีพเปลี่ยนไป
โคจรประจำใจในอารมณ์
๏นั่งทอดดูคู่รักมังกรหลับ
เย็นลมรับอ่อนไหวกับไม้ร่ม
เลือกคู่คิดมิตรปัญญาที่น่าชม
เป็นคู่สมเสพนามด้วยความรู้๚
มหา สุรารินทร์
บ่ายค้อย เสาร์ที่ 30 มีนาคม 2567 หมู่บ้านหวงเจียวาน
หมู่บ้านหวงเจียวาน บ้านเดิมสกุลหวง หรือ แซ่เหลือง เป็นบ้านเดิมของภรรยาขงเบ้ง / นางหวงเยี่ยอิง ซึ่งเป็นปัจจุบันเป็นมิวเซียมบอกเการครองคู่จูกัดเหลียง - ขงเบ้ง กับ นางหวงเยี่ยอิง ที่รัฐบาลมณฑลได้ใช้สถานที่นี้เป็นแหล่งเรียนรู้ของเยาวชนในการใช้คุณธรรมของชีวิตคู่ครองตนและครองเรือนขงเบ้งเลือกภรรยาไม่ใช่ที่หน้าตารูปลักษณ์แต่เลือกที่สติปัญญาประครองคู่อยู่เรือนหนุนนำส่งเสริมมิใช่เพียงรสกามารมย์แต่อุดมไปด้วยปัญญาจึงคำๆหนึ่งว่า"เลือกคู่ยากเหมือนขงเบ้งเลือกคู่