กลุ่มนักเคลื่อนไหวทางการเมือง รวมตัวที่หน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ จุดเทียน ไว้อาลัย  บุ้ง ทะลุวัง ที่เสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิต 

กลุ่มมวลชนจำนวนหนึ่ง เดินทางมาร่วมทำกิจกรรม ไว้อาลัยที่บริเวณด้านหลังศาลอาญากรุงเทพใต้ ต่อนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง แกนนำและนักเคลื่อนไหว กลุ่มทะลุวัง หลังหัวใจหยุดเต้น ขณะรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ และย้ายมาทำการรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาก่อนเสียชีวิต โดยกิจกรรมในวันนี้เริ่มต้นเมื่อ 17:00 น. ที่ผ่านมา กลุ่มมวลชนได้รวมตัวกันที่ ประตูด้านหลังศาลอาญากรุงเทพใต้ พร้อมชูกระดาษรูปภาพไว้อาลัยนางสาวเนติพร ก่อนเดินมาที่ประตูด้านหน้า และร่วกิจกรรมยืนไว้อาลัย และมีแกนนำยืนปราศรัยถึงจุดยืนของนางสาวเนติพร 

ต่อมาเวลา 19.12น. ทางกลุ่มผู้ร่วมกิจกรรมได้เตรียมเทียน แล้วดอกไม้ เพื่อนจุดเทียนยืนไว้อาลัย กับนางสาวเนติพร โดยก่อนกิจกรรมกาาจุดเทียนได้มีการไว้อาลัยเป็นเวลา 1 ชั่วโมง 12 นาที 

หนึ่งในนักกิจกรรมทางการเมือง ที่มาร่วมกิจกรรมที่ศาลอาญากรุงเทพฯใต้ เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจต่อการจากไปของนางสาวเนติพร ที่ไม่สามารถออกจากเรือนจำแบบมีชีวิตได้ วันนี้จึงตัดสินใจมาร่วมทำกิจกรรมเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนางสาวเนติพร และเพื่อนมาเคลื่อนไหวกิจกรรมคนอื่นๆที่ยังอยู่ในเรือนจำและยังไม่ได้รับการประกันตัว


นายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือ สายน้ำ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เพื่อนของนางสาวเนติพร ได้เดินทางมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ พร้อมเปิดเผยว่า ตนและเพื่อนๆเห็นตรงกันว่าไม่ควรจะมีใครเสียชีวิตไปจากกระบวนการยุติธรรม ตอนนี้ยังคงบอกไม่ได้ว่าเหตุผลที่ทำให้เสียชีวิตคืออะไรแต่ที่แน่ๆ 1 เหตุผลคือการถูกคุมขัง และไม่ได้รับการประกันตัว ซึ่งสิทธิ์ในการประกันตัวเป็นสิทธิพื้นฐานที่ผู้ต้องหาทุกคนควรจะได้รับ เพราะยังไม่มีการตัดสินว่ากระทำความผิดจริง บุ้งก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ควรจะได้รับการประกันตัว และถูกคุมขังจนเลือกวิธีการกดข้าวอดน้ำประท้วง

ส่วนตัวจากที่รู้จักบุ้ง ก็เป็นเหมือนคนทั่วไปมีความฝันและอยากจะใช้ชีวิตแต่กลับไม่มีโอกาสได้ทำสิ่งเหล้านั้น ส่วนตัวอยากจะบอกลุงว่าไม่ว่าบุ้งจะอยู่ที่ไหนก็ยังคิดถึงและระลึกถึงอยู่เสมอ และไม่อยากให้มีใครเจอสิ่งเดียวกับที่บุ้งเจออีก และหวังว่าผู้ต้องขังทางการเมืองทุกคนจะได้รับอิสรภาพโดยไว

ลูกค้าอยากจะย้ำแล้วเป็นการประกันตัวแต่มาตรฐานการรักษาของโรงพยาบาลราชธานีที่ก่อนหน้านี้มีการยืนยันว่าขีดความสามารถในการรักษาที่ดี ดูแลได้ แต่ทำไมในช่วงสุดท้ายกลับเลือกส่งออกไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติศูนย์รังสิต

ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มหลังจากนี้คงต้องขอเวลาสักระยะเนื่องจากยังคงอยู่ในอาการเสียใจ

ขณะที่ในส่วนของการรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ของศาลอาญากรุงเทพใต้ได้ปิดประตูทางเข้าออกและคัดกรองบุคคลเข้าออกในพื้นที่ศาล ด้านพันตำรวจเอกรัฐธนนท์ เอกฐิติกุลพัทธ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลยานนาวา ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ เฝ้าระวังและสังเกตุความเคลื่อนไหวกลุ่มผู้ชุมนุม โดยมีช่วงหนึ่งทางผู้กำกับ สน.ยานนาวา ได้เข้าไปพูดคุยกับแกนนำ และแจ้งให้ทราบถึงขอบเขตข้อกฎหมายในกิจกรรมการชุมนุม