ตำรวจน้ำ นำเรือตรวจการณ์ 630 และเรือ RHIB 01 ออกจับกุมเรือประมงต่างชาติ ลักลอบทำการประมงในเขตสิทธิการทำประมงของไทย บริเวณทะเลอ่าวไทย ซึ่งมีเรือประมงต่างชาติลักลอบทำการประมงในน่านน้ำไทย จับได้เรือของกลาง จำนวน 5 ลำ พร้อมลูกเรือ จำนวน 23 ราย

พ.ต.ท.นัฐพงศ์ ตาแก้ว รองผู้กำกับการ4 กองบังคับการตำรวจน้ำ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกองบังคับการตำรวจน้ำ ได้ดำเนินการยุทธการฟ้าสางที่ปลายด้ามขวาน ในพื้นที่อ่าวไทยตอนล่าง เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม 2567 ที่ผ่านมา และได้จับกุมเรือดัดแปลงบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซล ซึ่งเป็นเรือสัญชาติเวียดนาม จำนวน 3 ลำ ไปก่อนหน้านั้น จากเหตุการณ์ดังกล่าว ชุดสืบสวนได้สืบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่อง พบข้อมูลการเคลื่อนไหวของกลุ่มเรือประมงสัญชาติเวียดนามที่เข้ามาลักลอบทำประมง ในเขตน่านน้ำของไทย

จากการสืบสวนได้รับแจ้งจากสายลับ ว่ามีเรือประมงไม่ทราบสัญชาติเข้ามาทำประมงในเขตสิทธิการทำประมงของไทยบริเวณทะเลอาวไทยตอนบน ซึ่งเป็นเขตรอยต่อมีจำนวนมากขึ้น จึงได้วิเคราะห์ข้อมูลร่วมกัน ทำให้เชื่อว่า เมื่อเรือเจ้าหน้าที่ไม่ว่า จะเป็นเรือตำรวจน้ำ หรือเรือของเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่น มีการออกลาดตระเวนกลุ่มเรือประมงต่างชาติเหล่านี้ จะเคลื่อนที่เพื่อเลี่ยงการถูกตรวจพบ และถูกจับกุม ซึ่งจะมาพบมากในพื้นที่รอยต่อของทะเลอ่าวไทยตอนล่าง และตอนบน  ต่อมา ผู้บังคับการตำรวจน้ำจึงได้สั่งการ ให้ออกลาดตระเวนเพื่อติดตามจับกุม ในห้วงตั้งแต่ วันที่ 30 เมษายน – 5 พฤษภาคม 2567 และได้ตรวจพบเรือประมงต่างชาติ สัญชาติเวียดนาม ลักลอบเข้ามาทำประมงในน่านน้ำไทยในบริเวณพื้นที่ทางทะเลอ่าวไทยตอนบนหน้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 5 ลำ พร้อมลูกเรือ รวมจำนวน 23 ราย ห่างจากชายฝั่ง 50 ไมค์ทะเล

เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าจับกุม ผู้ต้องหาได้ขับเรือหลบหนีการจับกุม เจ้าหน้าที่ต้องใช้เรือเล็กไล่ตาม กระทั่งจับกุมได้ทั้งหมด โดยเป็นการลักลอบทำประมงแบบผิดกฎหมายในช่วงฤดูประกาศปิดอ่าวของประเทศไทยด้วย พร้อมแจ้งข้อหา “ร่วมกันทำการประมงพาณิชย์ในน่านน้ำไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต  ร่วมกันใช้เรือไร้สัญชาติทำการประมง  ฝ่าฝืนใช้เรือที่มีสัญชาติต่างประเทศ เรือเป็นของคนต่างด้าวทำการประมงในเขตการประมงไทย  รวมทั้งมีและใช้เครื่องวิทยุโทรคมนาคม โดยไม่ได้รับอนุญาต

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ ได้ควบคุมเรือของกลาง เป็นเรือประมงต่างชาติ จำนวน 5 ลำ พร้อมลูกเรือรวมจำนวน 23 ราย พร้อมทั้งตรวจยึดสัตว์น้ำ (ปลาเบญจพรรณ) รวมจำนวนประมาณ 600 กิโลกรัม บริเวณพื้นที่ทางทะเลอ่าวไทยตอนบนหน้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยควบคุมเรือประมงพร้อมลูกเรือทั้งหมดเข้ามายังท่าเรือน้ำลึก อ.บางสะพาน และนำส่ง สภ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อดำเนินคดีต่อไป