วันที่ 22 ก.ค.ที่พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์  นุชนารถ ผบก.รน., พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.รน.พ.ต.อ.พยงค์ เอี่ยมสกุล ผกก.10 บก.รน. พ.ต.ท.อัศรายุทธ  ทองลอง รอง ผกก.10 บก.รน. พ.ต.ท.ดุษฎียากร  กองทองพิพัฒน์ รอง ผกก.10 บก.รน.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.เกษมสันต์  ราชโสภา สว.ส.รน.2 กก.1บก.รน.,ว่าที่พ.ต.ต.นวพล ขวัญทองสว.ส.รน.1 กก.10 บก.รน.ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.รน.1 กก.10 บก.รน.:ส.ต.อ.วรเชษฐ์ กว้างสวาสดิ์เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.รน.2 กก.10 บก.รน.: ด.ต.เจษฎา โพธิ์ศรี, จ.ส.ต.วิศรุทไตรยราช,จ.ส.ต.อภิเดช เดชเสน,จ.ส.ต.มงคล แก้วพรม,ส.ต.อ.อภิสิทธิ์ ศรีทิน จับกุมนายประมวล (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ที่อยู่ 206 หมู่3 ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดยกล่าวหาว่า: ครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

พฤติการณ์แห่งคดีจากการสืบสวนขยายผลในการจับกุมซึ่งเป็นบุคคลเป้าหมายจากการขยายผลจับกุมคดีอาวุธปืนออนไลน์เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำนครพนม,ตำรวจน้ำธาตุพนมร่วมกับเจ้าหน้าที่ กก.สส.ภ.จว.นครพนม ได้ทำการสืบสวนทราบว่า นายเทพพิทักษ์  อายุ 27 ปี ที่อยู่ 206 หมู่3 ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนมมีพฤติการณ์ในการติดต่อสั่งซื้ออาวุธปืนผ่านระบบขนส่งพัสดุรัฐบาลและเอกชน เจ้าหน้าที่ กก.สส.ภ.จว.นครพนมได้ขอหมายค้นของศาลจังหวัดนครพนม ที่ ค.142/2566 ลงวันที่ 20ก.ค.2566 ให้ทำการค้นบ้านเลขที่อยู่ 206 หมู่3 ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำและเจ้าหน้าที่ กก.สส.ภ.จว.นครพนมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เดินทางไปที่บ้านดังกล่าว พบนายประมวล (สงวนนามสกุล)อายุ 50 ปีแสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแสดงหมายค้นให้นายประมวลฯ อ่านจนเข้าใจแล้ว จึงได้สอบถามนายประมวลฯว่านายเทพพิทักษ์ (สงวนนามสกุล) เป็นบุคคลตามหมายค้น ของศาลจังหวัดนครพนมซึ่งนายประมวลฯให้การเพิ่มเติมว่า นายเทพพิทักษ์  เดินทางไปต่างจังหวัด เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 20 ก.ค. 2566 จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ดำเนินการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบอาวุธปืนสงครามและเครื่องกระสุนและอื่นๆรวมจำนวน 13 รายการพบบริเวณโรงเรือนเก็บฟางอัดก้อน หลังบ้านเลขที่ 206 หมู่ 3 ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนมสอบถามนายประมวลฯ ให้การว่าของกลางจำนวน 13 รายการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นพบไม่ใช่ของตน แต่ยอมรับว่า ของกลาง ดังกล่าว อยู่ภายในบริเวณบ้านของตนจริง จึงได้ตรวจยึดของกลางดังกล่าวและได้แจ้งข้อกล่าวหา“ร่วมกันครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”

จากการสอบสวนเบื้องต้นนายประมวล  ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ว่าของกลางดังกล่าวไม่ของตน เชื่อว่าน่าจะเป็นของนายเทพพิทักษ์  ซึ่งพักอาศัยอยู่บ้านเดียวกัน นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.ธาตุพนม 

เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ธาตุพนม เพื่อดำเนินคดีกับนายเทพพิทักษ์ เมืองโคตร ซึ่งได้หลบหนี ตามข้อกล่าวหา “ร่วมกันครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” กับนาย(สงวนนามสกุล) ตามกฎหมายต่อไป