เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 4 เม.ย. 2567 ที่รัฐสภา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เดินทางเข้าร่วมการประชุม พิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เป็นวันที่ 2
โดยนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการชี้แจงในสภาเมื่อวันที่ 3 เม.ย. ระบุเป็นรัฐบาลตัวจริงเสียงจริงว่า ก็ยืนยัน เพราะมีการพูดและตั้งคำถามมาว่าเป็นตัวจริงเสียงจริงหรือเปล่า ซึ่งตนก็ยืนอยู่ตรงนี้ และพูดจริงเสียงจริง ตนยืนยันว่าทำจริง และเชื่อว่าหากดูอย่างเป็นธรรมจริงๆ เอาแต่เรื่องที่เราได้ทำมาก็เชื่อว่า ถ้าดูกันอย่างจริงๆ เราก็ทำเพื่อประชาชน ก็ไม่อยากให้ไปพูดอะไรกันมากมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายอย่างที่ฝ่ายค้านอภิปรายเน้นไปที่เรื่องการเดินทางไปต่างประเทศของนายกฯ นายเศรษฐา กล่าวว่า ได้ชี้แจงไปแล้วหลายครั้งเหมือนกัน เพราะมีหลายเรื่องที่ต้องชี้แจง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจหรือการดึงดูดนักลงทุน เขตการค้าเสรี (FTA) และเรื่องที่ต้องไปบอกเขาว่าประเทศเราเปิดแล้ว อันนี้ก็มีความมั่นใจและสบายใจ อย่างที่ตนบอกการจะลงทุนอะไรทั้งหลาย ที่ลงทุนเป็นแสนๆ ล้าน แม้แต่การตัดสินใจซื้อบ้าน 3 ล้านบาท 5 ล้านบาท ยังตัดสินใจอยู่ตั้งหลายเดือน ใจเขาใจเรา เงินเขาเงินเรา เหมือนกันเวลาพิจารณาก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบ บางประเทศอาจจะเป็นธุรกิจใหม่ซึ่งจริงๆแล้ว ต้องอาศัยการรวบรวมข้อมูลที่ค่อนข้างจะเยอะ ตนมั่นใจภายใน 2 ปีข้างหน้านี้จะได้เห็นการลงทุนเข้ามาในประเทศไทย
เมื่อถามว่า ที่นายกฯ ชี้แจงต่อสภาฯว่า วันหนึ่งเป็นฝ่ายค้าน อีกวันก็ขอร่วมรัฐบาล มีพรรคฝ่ายค้านมาเจรจาขอร่วมรัฐบาลบ้างหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “ผมเชื่อว่าต้องมีบ้าง แต่เขาคงไม่พูดกับผมหรอก เพราะผมพูดตลอดเวลา โดยส่วนตัว 314 เสียงแน่นแล้ว และเราเองก็ทำงานกันได้ดี ส่วนจะไปคุยอะไรกับใครก็เป็นเรื่องของเขาไป แต่ว่ามันมีแน่นอน”
เมื่อถามว่า หากมีการพูดคุยกันจริงจะรับเพิ่มหรือไม่ นายเศรษฐา หัวเราะในลำคอพร้อมกล่าวว่า “ผมว่าไม่ อย่างที่บอก 314 เสียงก็ชัดเจนอยู่แล้ว“
นายกฯ กล่าวด้วยว่า วันเดียวกันนี้ตนก็ย้ายทำเนียบรัฐบาลมาที่นี่ มานัดประชุมนัดทำงานที่นี่ ก็มีหลายๆหน่วยงานที่มาพูดคุย และวันนี้ก็จะมีรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะมาด้วย