วันที่ 8 เม.ย.68 ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยถึงท่าทีของพรรคการเมืองฝ่ายค้านต่อการลงมติในวาระหลักการ ร่างพ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ ร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ที่จะเข้าสู่การพิจารณาในการประชุมในวันพุธที่ 9 เม.ย.นี้ ว่า ในเบื้องต้นพรรคประชาชนหารือแล้วจะเห็นชอบกับร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ส่วนพรรคการเมืองฝ่ายค้านจะขอมติในที่ประชุมอีกครั้งหนึ่ง

โดยเห็นว่าการเร่งรีบผลักดันของรัฐบาล เป็นประเด็นหนึ่งที่พรรคประชาชนจะเห็นชอบกับร่างฉบับนี้ เหตุผลแรกคือความเร่งรีบจนผิดปกติ ที่ไม่แน่ใจว่าจะรีบไปขนาดนี้ทำไม ในเมื่อต่อให้ผ่านไปแล้ว เอ็นเตอร์เทนคอมเพล็กซ์ที่อยากเห็นทั้งหมดกว่าจะเสร็จใช้เวลาอย่างน้อย5-6 ปี ดังนั้นเหตุใดจึงรอ 2-3 เดือน เพื่อให้เนื้อหารายละเอียดรอบคอบกว่านี้ไม่ได้ และนำไปสู่เหตุผลถัดไปว่าในรายละเอียด และสิ่งที่รัฐบาลพูดกลับไปกลับมาไม่มีความชัดเจนใดใดทั้งเรื่องวัตถุประสงค์ และใบอนุญาตจะโปร่งใสเพียงพอหรือไม่ หากให้อำนาจกับคณะกรรมการนโยบายตกลงใครจะได้รับใบอนุญาต

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นหนึ่งในนโยบายตอนหาเสียงเลือกตั้งของพรรคก้าวไกล และชี้แจงว่าสิ่งที่ได้นำเสนออยู่ภายใต้เงื่อนไข การศึกษาอย่างรอบคอบ โดยอ้างว่ามีสำนักข่าวหนึ่งที่มีช่องดิจิตอลเป็นของตัวเองเอาคลิปไปลง และอ้างว่าตนเองเคยดันเรื่องนี้สุดตัว แต่ตัดคลิปบางช่วงบางตอน โดยย้ำถึงการอภิปรายครั้งนั้นว่า 1.จะต้องมีการศึกษาอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการฟอกเงิน และ 2.จะต้องศึกษาให้แน่ชัดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นเป็นไปได้จริงหรือไม่ ก่อนจะทักท้วงสื่อมวลชนที่ได้ดำเนินการตัดตอนบางช่วงไปเผยแพร่ ซึ่งถือว่าเป็นการดิสเครดิตทางการเมืองไร้จรรยาบรรณของสื่อมวลชน

“โดยธรรมเนียมปฏิบัติทางการเมือง หากร่างกฎหมายของครม.ไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาฯในวาระแรก นายกฯจะต้องลาออก เพราะไม่สามารถคุมเสียงพรรคร่วมรัฐบาลได้ และกฎหมายดังกล่าวเป็นกฎหมายการเงิน” ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าว 

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกมาข่มขู่พรรคร่วมรัฐบาล หากไม่เห็นด้วยให้ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ต้องให้ความเป็นธรรม เนื่องจากไม่ทราบว่าแหล่งข่าวเป็นใคร และเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ขอให้พรรคเพื่อไทยเป็นคนชี้แจง เพราะไม่สามารถตัดสินได้ว่านายทักษิณพูดจริงหรือไม่

“ส่วนการโหวตในวาระแรกพรุ่งนี้จะต้องติดตามดูว่าจะมีพรรคร่วมรัฐบาลใดบ้าง เนื่องจากบางพรรคไม่เห็นด้วย แต่ไม่แน่ใจว่ามีการต่อรองหรือไม่ในการผ่านกฎหมายฉบับนี้ แต่ยอมรับว่าเสียงของพรรคการเมืองฝ่ายค้านห่างจากเสียงรัฐบาลมากพอสมควร ซึ่งไม่ได้กังวลความวุ่นวายจากกลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้าน ซึ่งเป็นสิทธิ์ความชอบธรรมของประชาชนตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ แต่เป็นสิ่งที่รัฐบาลควรนำไปคิดทบทวนว่าจำเป็นต้องเร่งรีบให้ผ่านวาระที่หนึ่งในวันพรุ่งนี้และในสมัยประชุมนี้จริงหรือไม่” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว