# มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัติขอเปิดอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 เป็นวันแรก ทั้งนี้นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาฯเป็นผู้กล่าวเปิดการอภิปราย ว่า หลังการเลือกตั้งประชาชนต่างคาดหวังว่าเราจะได้ผู้นำประเทศคนใหม่ที่ต่างไปจากผู้นำหลังการรัฐประหาร แต่เวลาผ่านไปเรากลับได้นายกรัฐมนตรี ที่ไร้วุฒิภาวะ การจัดตั้งคณะรัฐมนตรีแบบเดิมที่จัดสรรตามโควต้าสมบัติผลัดกันชม 

ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า คนไทยอยากให้นายกฯ บินเหมือนเหยี่ยวมากกว่าแมลงวัน บินทั้งวันแต่ไม่ได้อะไรนอกจากสร้างภาพ และปัญหาใหญ่ที่สุด ที่รัฐบาลต้องแก้ เพราะสร้างความเสื่อมให้รัฐบาล คือการสร้างยุติธรรมสองมาตรฐาน เป็นผลงานชิ้นเดียวที่รัฐบาลทำได้เร็วที่สุด เป็นคำตอบว่ารัฐบาลนี้เพื่อใคร นั่นคือการสร้างนักโทษพันธ์ุใหม่ 

ต่อมานายเศรษฐา ได้ชี้แจง ตอบโต้ฝ่ายค้านว่า อย่าเป็นฝ่ายค้านที่เหมือนแมลงวี่ จ้องแต่เล่นการเมือง และมั่นใจว่าเมื่อเข้ามารับตำแหน่งได้เดินทางไปประเทศต่างๆ ที่มีการแสดงเจตจำนงจะมาลงทุนในประเทศไทยพบว่ามีเม็ดเงินเพิ่มมากขึ้น 2.5 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ชัดเจนและพิสูจน์ได้ ขอให้อดใจและเชื่อว่าอีก 2 ปีข้างหน้า เราจะเห็นเงินลงทุนเข้ามาในประเทศไทยอย่างมหาศาล ขอใช้คำว่าสึนามิของการลงทุน

# ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติรับคำร้อง ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นขอให้พิจารณาเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล กรณีมีหลักฐานอันควรเชื่อว่าพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้อง) มีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

อันเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคผู้ถูกร้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) ซึ่งข้อเท็จจริง⁣ปรากฏตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 และให้ผู้ร้องทราบ และส่งสำเนาคำร้องให้พรรคผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในสิบห้าวัน