หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ขายข่าวขายความจริงให้ประชาชนคนไทยได้อ่านมาอย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประเทศไทยฉบับนี้ ประจำวันพุธที่ 27 มีนาคม 2567 ชื่นชมการทำหน้าที่ของ สว. ...*...
เอาไปร้อยคะแนนเต็ม คือ การทำหน้าที่ ของ สมาชิกวุฒิสภา ที่ ถูกปรามาส ว่า มาจากการลากตั้ง ในการ อภิปรายทั่วไปรัฐบาลแบบไม่ลงมติ ประเดิมเปิดฉากอภิปรายคนแรกโดย นายเสรี สุวรรณภานนท์ แกนนำ สว.ผู้ขอเปิดอภิปราย ร่ายยาว 7 ประเด็น ที่ เป็นปัญหาคาใจคนไทยทั้งประเทศ อาทิเช่น ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายไร้มาตรฐาน เป็นต้น ...*...
ที่ บารอน ชอบใจ นายเสรี สุวรรณภานนท์ เปรียบเทียบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นั่งควบ 2 เก้าอี้ใหญ่ แต่ ไปทำตัวเป็นเซลส์แมน แทนที่ จะเป็น ซีอีโอ ใหญ่โตสมฐานะ เป็นนายกฯ 6 เดือน บินว่อนเกือบค่อนโลก 15 ประเทศ ท่ามกลาง ปัญหาปากท้องของประชาชน ที่ คนเป็นนายกรัฐมนตรีต้องให้ความสำคัญกว่าสิ่งใด บินไปเจรจาผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ให้เข้ามลงทุนในประเทศไทย มีการเตรียมความพร้อมภายในประเทศรองรับหรือยัง เป็นนายกฯที่ขยันแต่ไร้ผลงาน ...*...
เล่นเอา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นั่งไม่ติดเก้าอี้ ลุกขึ้นโต้ตอบทันใด 8-9 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีการเปิดอภิปรายรัฐบาล ในมาตรา 153 แล้วทำไมแค่ 7 เดือน ถึงมี รู้ดีว่าเป็นหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ไม่เคยน้อยเนื้อต่ำใจ อ้าว บารอน ว่า ออกอาการหยั่งงี้ นี่แหละ เรียกว่าน้อยเนื้อต่ำใจ พูดไปให้เข้าตัว ใครจะไปอภิปรายคนแต่งตั้งเขามา ...*...
เป็นมวยถูกคู่ อีกคู่หนึ่ง เมื่อ นพ.พลเดช ปิ่นประทีป สว. ที่เคยเป็นถึงอดีตรัฐมนตรี อภิปรายถึง การปฏิบัติงานหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช ของ กระทรวงเกษตรฯ ที่ ไปอายัดยางพาราก้อน ของ ชาวบ้าน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยมิชอบจำนวน 600 กว่าตัน เพียงแค่ สงสัยที่มาของยาง 29 ตันว่าเป็นยางเถื่อน ลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน แม้ ชาวบ้านสามารถยืนยันได้ว่ายาง 29 ตันถูกต้อง แต่ ก็ยังเพิกเฉยไม่ถอนอายัด เป็นเหตุให้ ยางทั้งกว่า 600 ตันเสียหาย จาก สภาพยางดีๆสีขาวกลายเป็นสีดำ เสียหายกว่า 15 ล้านบาท ...*...
คุณหมอพลเดช ปิ่นประทีป อภิปรายในสภาต่ออีกว่า มีทีมงานอีกหนึ่งชุด ได้ชื่อว่า ทีมเจอจ่ายจบ ไม่จ่ายเป็นเจ็บ เรียกว่า พวกสัมภเวสี มีการเชิญผู้ประกอบการไปคุย และ เรียกรับกล้วย 1 กิโลกรัมเป็นเครื่องเซ่น ฝากถึงนายกฯ รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก ขอจงช่วยปัดเป่าความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชน เพราะนี่คือ ยางพารา ไม่ใช่แป้ง ...*...
งานนี้ บารอน ขอชม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ แสดงความเป็นลูกผู้ชาย ลุกขึ้นตอบโต้อย่างดุเดือดเผ็ดมันว่า ตนไม่สามารถย้อนกลับอดีตได้ แต่ เลือกที่จะทำเพื่อบ้านเมือง เรื่องนี้ ได้ลงไปตรวจสอบด้วยตัวเอง จากคำร้องเรียนว่า มีกลุ่มนายทุนพ่อค้าหัวใสไปปลูกยางในประเทศเพื่อนบ้าน และ ลักลอบนำมาขายในประเทศ เป็นเหตุให้ราคายางพาราตกต่ำ จึงต้องดำเนินการปราบปรามผู้นำเข้ายางเถื่อน ทำให้ยางพาราพุ่งขึ้นสูงกิโลกรัมละ 90 บาท จะไปสืบหาความจริงเป็นบริษัทเครือญาติของใคร เพื่อ นำมาเปิดเผยให้ประชาชนรับทราบต่อไป ให้ประชาชนตัดสินว่าใครผิดใครถูก...*...
ทำดีก็ต้องชม ปัญหาการขาดสภาพคล่อง ของ หลายบริษัทผู้รับเหมารายใหญ่ นำโดย บริษัทอิตาเลียนไทย ทำให้ ไม่มีเงินจ่ายค่าแรงคนงาน ที่มี คนงานกว่าสองหมื่นคน โดย นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกรัฐบาลแถลงว่า รัฐบาลเห็นความสำคัญของแรงงาน ได้ลงไปร่วมมือกับผู้รับเหมาคลี่คลายปัญหา สามารถจ่ายค่าจ้างได้แล้ว ...*...
ประสา บารอน ก็ขอ ขอบคุณรัฐบาลแทนลูกจ้างที่ต้องใช้กำลังแรงกายแลกเงิน แต่ อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือนายจ้าง บ้าง เพราะ เป็นต้นทางของงาน ที่ ชนะการประมูลงานก่อสร้างจากรัฐบาล ในช่วงจังหวะ ที่ไม่มีงบประมาณ ทำให้ ไม่มีการประมูลงานก่อสร้างใหม่ๆเกิดขึ้น ...*...
ทำให้ ไม่มีเงินทุนหมุนเวียน ซึ่ง เป็นต้นเหตุของการขาดสภาพคล่อง โดยเฉพาะในช่วงระยะเวลา 6 เดือน นับจากนี้ไปเป็นต้นไป ที่คาดว่า กว่างบประมาณจะผ่านทุกขึ้นตอน นำออกมาใช้ได้ ก็ราวๆต้นเดือนพฤษภาคม ช่องว่างระหว่างนี้ ทั่นนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ควรขอความร่วมมือแบงก์ชาติ ให้ขอความร่วมมือไปยัง ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง ที่ เป็นเจ้าหนี้บริษัทผู้รับเหมาทุกราย ให้ความร่วมมือ ชะลอการฟ้องร้องทวงหนี้ ชะลอการยึดเครื่องจักร พ้นจากช่วงนี้ไปแล้ว ใครยังเบี้ยวหนี้ ไม่ชำระหนี้ ให้ดำเนินการไปตามกฎหมายได้ตามปกติ ...*...
ที่มา:บารอน (27/3/67)