วันที่ 20 มีนาคม 2567 อาคารรัฐสภา ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว (วาระ 2) เป็นวันแรก นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา ได้อภิปรายในมาตรา 15 ส่วนของกระทรวงคมนาคม ว่า เป็นการจัดสรรงบประมาณที่ติดกับดักการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมแบบเดิม ๆ พร้อมแนะกระทรวงคมนาคมควรใช้งบประมาณโดยคำนึงถึงชีวิตและโอกาสของคนไทย
นายสรรเพชญ อภิปรายว่า งบประมาณของกระทรวงคมนาคมที่ผ่านมา ถูกนำไปลงทุนกับเรื่องถนนเป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นการมุ่งพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน แต่ละเลยเรื่องคุณภาพชีวิตของคนไทย โดยนายสรรเพชญ ได้ยกบทบาทของกรมเจ้าท่า ว่า มีหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาคู คลอง ร่องน้ำ และชายฝั่ง ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในปัจจุบันเป็นอย่างมาก แต่เมื่อดูงบประมาณที่กรมเจ้าท่าได้รับการจัดสรร กลับมีเพียง 4 พันกว่าล้าน หรือคิดเป็น 1.9% จากงบทั้งหมดของกระทรวงฯ ที่มากถึง 2 แสนกว่าล้าน
ด้านการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมของไทย นายสรรเพชญ เห็นว่า กระทรวงคมนาคม ต้องใช้งบประมาณโดยแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ และต้องกล้าลงทุนกับโครงข่ายคมนาคมทางน้ำ ซึ่งถือเป็นกาาขนส่งที่มีต้นทุนค่าขนส่งที่ต่ำที่สุดโดยยกตัวอย่างเช่น การรองรับธุรกิจเรือสำราญในอนาคต ซึ่งไทยมีศักยภาพสูงเนื่องจากในภาคใต้มีทะเลทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทย นายสรรเพชญ ยังชี้ให้เห็นว่าธุรกิจเรือสำราญที่ผ่านมาได้สร้างรายได้มหาศาลให้กับไทย และรัฐบาลต้องคว้าโอกาสนี้ไว้
นายสรรเพชญ ยังได้กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาของกระทรวงคมนาคม ว่า จะต้องไม่ยึดติดกับกรอบคิดเดิม ๆ แต่ต้องเปิดมุมมองการพัฒนาใหม่ ๆ แสวงหาโอกาสใหม่ ๆ และในตอนท้าย นายสรรเพชญ ได้แนะนำให้กระทรวงคมนาคม นำโครงการขนาดใหญ่ Megaproject ในพื้นที่ภาคใต้ ที่เคยผ่านการศึกษามาแล้ว มาปัดฝุ่นใหม่เพื่อพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ภายหลังจากที่พื้นที่ดังกล่าวไม่ได้มีการลงทุนขนาดใหญ่มาเป็นเวลานาน แล้ว