กกต.เช็กบิลนักการเมืองตระกูลพลซื่อ ยกครัว! ยื่นศาลอุทธรณ์ฟันใบดำ-ใบแดงรัชนี ข้อหาทุจริตแจกเงินชมรมกำนักผู้ใหญ่บ้าน จูงใจให้ลงคะแนนเลือกซ่อมนายกอบจ. พร้อมเอาผิดอาญาสามี-ลูกชายพ่วงด้วย

     เมื่อวันที่ 18 มี.ค.67 เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.ที่มีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาค เพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง(ใบดำ) หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง(ใบแดง) ของ นางรัชนี พลซื่อ ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จากเหตุเมื่อครั้งลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ร้อยเอ็ด ปี2565 กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 108 วรรคสอง พร้อมดำเนินคดีอาญากับนางรัชนี , นายเอกภาพ พลซื่อ อดีตส.ส.ซึ่งเป็นสามี และนายเอกรัฐ พลซื่อ บุตรชาย ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตามพ.ร.บ.สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562มาตรา 65 (2) ประกอบมาตรา 126 ด้วย
   

 สำหรับเหตุที่ กกต.มีมติดังกล่าว เนื่องจากการไต่สวนฟังได้ว่าเมื่อวันที่ 5ส.ค.65 ศาลอุทธรณ์ ภาค 4 มีคำพิพากษาสั่งให้มีการเลือกตั้งนายกอบจ.ร้อยเอ็ด ใหม่แทนนายเอกภาพ พลซื่อ ที่ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งมีกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา
   

 ต่อมา วันที่ 10 ส.ค.65 ซึ่งเป็นวันกำนันผู้ใหญ่บ้าน ช่วงเวลา10.00-13.00 น. พยานรวม 17 ปาก ให้ถ้อยคำยืนยันว่านางรัชนี ,นายเอกภาพ และนายเอกรัฐ เดินทางไปร่วมกิจกรรมดังกล่าวที่จัดขึ้นใน 7 อำเภอของจ.ร้อยเอ็ดคือ อ.เชียงขวัญ อ.ธวัชบุรี อ.ทุ่งเขาหลวง อ.โพธิ์ชัย อ.โพนทอง อ.หนองพอก และอ.เมยวดี บุคคลทั้งสามได้มอบเงินสนับสนุนการจัดกิจกรรมให้แก่ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอละ10,000 บาท ทั้งที่ก่อนหน้านั้นทางชมรมฯก็ไม่ได้ขอรับบริจาคเงินจากฝ่ายการเมือง
     

ขณะร่วมงานนางรัชนี กล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงว่าจะลงสมัครนายกอบจ.ร้อยเอ็ดแทนนายเอกภาพสามีที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง และขอฝากตนเองในการเลือกตั้งเป็นนายกอบจ.ร้อยเอ็ดที่จะมีขึ้นด้วย ส่วนนายเอกภาพได้พูดถึงการถูกเพิกถอนสิทธิและขอเสียงสนับสนุนให้นางรัชนีได้เป็นนายกอบจ.
   

 ในวันที่ 22 ส.ค.65 นางรัชนีได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง และในวันที่ 25 ก.ย.65 ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกอบจ.ร้อยเอ็ด ซึ่งตามพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 64 (4) ที่เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งกำหนดว่า ในกรณีมีการสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ให้ผู้สมัครหาเสียงเลือกตั้งได้ตั้งแต่วันที่มีคำสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่จนถึงเวลา 18.00 น.ของวันก่อนวันเลือกตั้ง บทบัญญัติดังกล่าวจึงมีผลบังคับนับตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค.65 ซึ่งเป็นวันที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำพิพากษาสั่งให้มีการเลือกตั้งนายกอบจ.ร้อยเอ็ดใหม่ แทนนายเอกภาพ

     จากข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าการที่นางรัชนี ,นายเอกภาพ และนายเอกรัฐ ได้ให้เงินแก่ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านที่จัดงานวันกำนันผู้ใหญ่บ้านขึ้นที่จ.ร้อยเอ็ด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่นางรัชนี จึงเป็นการฝ่าฝืนพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562มาตรา 65(2) เป็นเหตุให้ผลการเลือกตั้งนายกอบจ.ร้อยเอ็ดในส่วนที่เกี่ยวข้องกับนางรัชนี เกิดจากการเลือกตั้งที่มิได้เป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม ตามพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562มาตรา 108 วรรคสอง
 

   อย่างไรก็ตาม คดีนี้ที่กกต.จะยื่นฟ้องต่อศาลอุทธรณ์ คาดว่าจะไม่มีคำขอให้ศาลอุทธรณ์สั่งให้นางรัชนีหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา108 วรรค4เหมือนกรณียื่นคำร้องเอาผิดผู้บริหารท้องถิ่นอื่น เนื่องจากปัจจุบันนางรัชนี พ้นจากตำแหน่งนายกอบจ.ร้อยเอ็ดแล้ว และอำนาจสั่งให้สส.หยุดปฏิบัติหน้าที่กรณีทุจริตเลือกตั้งเป็นอำนาจศาลฎีกา