“สยามรัฐ” ยืนหยัดอยู่บนบรรณพิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาน “นิคฺคณฺเห นิคฺคหารหํปคฺคณฺเห ปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม”…*...

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ ขอให้ตรุษจีนปีนี้ คุณผู้อ่าน “สยามรัฐ” สุขสมหวัง  มั่งมี่เงินทอง กิจการงานเจริญรุ่งเรือง ส่วน “ศรพระราม” ไทยแท้ 100% แต่เอ็นจอยทุกเทศกาล ตรุษจีน ตรุษไทย ตรุษฝรั่ง เรื่องมงคล วันดีต่างๆ  ได้โอกาสกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และบรรพบุรุษ ทำแล้วดีเป็นศรีแก่ตัว ไม่เดือดร้อนใคร ว่าแล้วก็รอกิน “ไก่รวนเค็ม” ข้างบ้าน...*...

เปิดออกมาแล้ว สำหรับผลการศึกษาและข้อเสนอแนะจาก ปปช.กรณี เติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเลต ที่ไม่ต่างจากที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ เพียงแต่ขมวดปมสรุปให้อ่านง่ายๆขึ้น และชี้ชัดฟันธงมากขึ้น...*...

หลักๆ ก็เป็นการชี้ว่า เศรษฐกิจไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤติ ไม่ควรออกกฎหมายเงินกู้เพราะมีความเสี่ยงที่จะขัดกฎหมายหลายฉบับ พร้อมกับชี้ช่องให้ กกต.ไปตรวจสอบกรณีที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงเอาไว้อย่างหนึ่งแต่พอได้เป็นรัฐบาลแถลงนโยบายรัฐบาลอย่างหนึ่ง อาจขัดรัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 หรือไม่ “มิฉะนั้น จะเป็นบรรทัดฐานสำหรับพรรคการเมืองสามารถหาเสียงไว้อย่างไร เมื่อได้รับเลือกตั้งแล้ว ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามที่ได้หาเสียงไว้”...*...

และยังห่วงเทคโนโลยีบล็อกเชนด้วย ใครได้อ่านผลการศึกษา 4 ข้อและข้อเสนอแนะของ “ป.ป.ช.” ฉบับเต็ม ก็อาจจะรู้สึกว่ามีหลายจุดที่หลอกด่ารัฐบาลเศรษฐาอยู่เหมือนกัน แต่ใดๆ คือ รัฐบาลเศรษฐา ยังไงก็ต้อง “ดันทุรัง” ทำไปให้ได้ เพราะงานนี้ “ถอยก็ตาย ไม่ถอยก็ตาย” เพียงแต่จะเดินหน้าแจกเงินต่ออย่างไร ให้การ์ดสูงและรัดกุมเพราะ ไม่มีข้าราชการคนไหนเค้าอยากติดคุกแทนคุณอีกแล้ว...*...

ส่วนที่ปปช.ชี้ช้องเรื่องหาเสียงไม่ตรงปกนั้น กกต.ให้สัมภาษณ์หลายครั้งหลายหนว่า ดูแค่การทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเท่านั้น ไม่ได้ดูในประเด็นนี้ เพราะไม่งั้นก็ต้องหันไปตรวจสอบหลายรัฐบาลที่ผ่านมา แต่ในบรรยากาศการเมืองที่มี “กลิ่นแปลกๆ” ตรงนี้ก็ต้องไปดูว่า ปปช.โยน “เผือกร้อน” มาแบบนี้ จะนิ่งๆ เหมือนที่ผ่านมาหรือไม่ ถ้าใช่ก็คงไปต่อ แต่ถ้ากกต.ฮึดฮัดขึ้นมาก็เป็นสัญญาณที่อันตรายเหมือนกัน  ...*...

ส่วนถ้าถามว่าปปช.ทำเกินหน้าที่หรือไม่ ก็ต้องบอกว่า ชื่อก็บอกแล้วว่า “ป้องกัน” และ “ปราบปราม” การทุจริตแห่งชาติ มีกฎหมายให้อำนาจเอาไว้ ถึงแม้จะมีการตั้งข้อสังเกตมาจาก “หนูไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล จากก้าวไกล ว่ารายงานนี้ปปช.ทำเกินขอบเขตอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. ในการแนะนำ อาทิ การให้จำกัดคนที่จะได้รับประโยชน์ให้เป็นเฉพาะกลุ่มเปราะบางหรือรายได้น้อยเท่านั้น ก็ต้องมาดูด้วยว่าวัตถุประสงค์ของแต่ละโครงการที่แตกต่างกัน อาจไม่ได้เพื่อกลุ่มเปราะบางโดยเฉพาะ ...*...

แต่ที่ “หนูไหม” บอกว่า รายงานดีเลย์ออกมาเปล่าประโยชน์  ก็อยากให้เข้าใจความ “กระอักกระอ่วน” ภายในปปช. ที่ผลการศึกษานี้ เป็นมรดกของกรรมการปปช.บางคนที่จงใจทิ้งเอาไว้ให้ และบังเอิ๊ญบังเอิญที่รายงานหลุดออกไป ทำให้กรรมการปปช.แก้ไขลำบาก คล้ายๆมีใครไม่อยากให้แก้ไขนั่นแหละ อุ๊ย! ...*...

ที่มา:ศรพระราม (09/01/67)