คลังจ่อชง ครม. 27 มี.ค.นี้ อนุมัติโครงการ เงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 สำหรับวัย 16-20 ปี ใช้จ่ายได้ในพื้นที่กรุงเทพฯ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความเข้มแข็งระบบเศรษฐกิจ 27,000 ล้านบาท
       
         เมื่อวันที่ 24 มี.ค.68 รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในการประชุมครม. วันที่ 27 มี.ค.กระทรวงการคลังจะเสนอขออนุมัติโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3  สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 16-20 ปี เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพให้แก่ผู้ที่อยู่ในวัยศึกษาให้มีโอกาสเข้าถึงการใช้จ่ายที่จำเป็นในการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และกระตุ้นการบริโภคให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง โดยเป็นผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 เม.ย.2567 สำเร็จ ที่มีสัญชาติไทยและอายุตั้งแต่ 16-20 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ 15 ก.ย.2567 (เกิดตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.2547 ถึงวันที่ 16 ก.ย.2551) และมีคุณสมบัติเพิ่มเติม ดังนี้
       

 1.กลุ่มประชากรที่มีที่อยู่ในทะเบียนบ้าน ณ วันที่ส่งข้อมูลไปตรวจสอบกับกรมการปกครอง ไม่รวมถึงทะเบียนบ้านกลาง 2.ไม่เป็นผู้มีเงินได้พึงประเมินเกิน 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2566 3.ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากรวมกันเกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 30 มิ.ย.2567 โดยให้หมายความถึงเฉพาะเงินฝากที่อยู่ในรูปสกุลเงินบาทเท่านั้น และไม่รวมถึงกรณีบัญชีเงินฝากประเภทบัญชีร่วม บัญชีเพื่อ และบัญชีโดย และผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทสลากออมทรัพย์ 4.ไม่เป็นผู้อยู่ในสถานสงเคราะห์ในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ตามฐานข้อมูลของ พม. ณ วันที่ 30 พ.ย.2567 5.ไม่เป็นผู้ต้องขัง 4 ประเภท ได้แก่ นักโทษเด็ดขาด ผู้ต้องขังระหว่าง ผู้ต้องกักขัง และผู้ต้องกักกัน ตามฐานข้อมูลของกรมราชทัณฑ์ ณ วันที่ 30 พ.ย.2567 6.ไม่เป็นกลุ่มเป้าหมายตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ


         โดยมีเงื่อนไขการใช้จ่ายเงิน 10,000 บาท เฟส 3 ระหว่างประชาชนกับร้านค้าดังนี้ 1.ประชาชนจะสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าขนาดเล็กภายในเขต (50 เขต) ในกรุงเทพฯ หรือภายในอำเภอ (878 อำเภอ) ในต่างจังหวัดเดียวกับที่อยู่ตามทะเบียนบ้านของตน ทั้งนี้ ตามประเภทร้านค้าที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด 2.ในการใช้จ่ายภายใต้โครงการฯ แต่ละครั้ง ระบบจะตรวจสอบ ดังนี้

2.1 ที่อยู่ (เขตหรืออำเภอ) ของร้านค้าตามที่ลงทะเบียนโครงการฯ

2.2 ที่อยู่ (เขตหรืออำเภอ) ของประชาชนตามทะเบียนบ้าน ณ วันที่ส่งข้อมูลไปตรวจสอบกับกรมการปกครอง

2.3 เขตหรืออำเภอของร้านค้าและประชาชน ต้องตรงกัน

2.4 ประชาชนต้องเปิด Location ในขณะที่ใช้จ่ายกับร้านค้า เพื่อให้สามารถตรวจสอบพิกัดตำแหน่งขณะใช้จ่าย การชำระเงินจึงจะสมบูรณ์ ซึ่งดำเนินการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายจำนวนไม่เกิน

2.7 ล้านคน โดยจะใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 งบกลางรายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ จำนวนไม่เกิน 27,000 ล้านบาท โดยกำหนดระยะเวลาการใช้จ่ายภายใต้โครงการฯภายใน 6 เดือน ตั้งแต่วันที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) เปิดให้ใช้ระบบใช้จ่ายอย่างเป็นทางการ ซึ่ง ดศ.จะต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบโดยทั่วกัน ส่วนระยะเวลาใช้จ่ายหรือ Cash Out ของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันที่เริ่มใช้จ่ายถึงวันที่ 30 ก.ย.2569