วันที่ 6 ก.พ.2567 เวลา 09.30น. ที่รัฐสภา ในการประขุมวุฒิภสา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายเฉลิมชัย เฟื่องคอน สว. ได้หารือความคืบหน้าการขอเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา153 ว่า หลังจากสว.ยื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไปต่อรัฐบาล 2วัน ในปลายเดือนก.พ. ได้รับคำตอบจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ว่า นายกรัฐมนตรี ติดภารกิจไปต่างประเทศ จึงพร้อมมาตอบอภิปรายทั่วไป หลังวันที่ 20มี.ค.2567 แสดงว่า การมาตอบอภิปรายต่อ สว. เป็นเรื่องรอง ไม่สำคัญเท่าการไปต่างประเทศ ทั้งที่ไม่มีรัฐบาลไหนเชิญไป แต่กลับไปเอง นายกรัฐมนตรี ควรให้ความสำคัญฝ่ายนิติบัญญัติบ้าง ใครจะรับผิดชอบหากเปิดอภิปรายทั่วไปไม่ได้ มีอยู่ 2 ฝ่ายคือ 1.ประธานวุฒิสภา 2.นายกรัฐมนตรีและครม. โดยขณะนี้ประธานวุฒิสภายังไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขให้ครบถ้วนคือ ยังไม่บรรจุวาระขอเปิดอภิปรายทั่วไปให้เป็นเรื่องเร่งด่วน มัวแต่รอรัฐบาลอยู่ ถ้ารัฐบาลไม่พร้อมแสดงว่า ไม่ต้องตอบ
“เดิมสว.ตั้งใจอภิปรายวันที่ 26-27ก.พ. แต่เนื่องจากวันที่ 26ก.พ.เป็นวันหยุดชดเชยวันมาฆบูชา ต้องเลื่อนเป็นวันที่ 4-5มี.ค.2567 จึงขอให้ประธานวุฒิสภาเร่งบรรจุวาระเปิดอภิปรายทั่วไปเป็นเรื่องด่วนโดยเร็ว และแจ้งรัฐบาลอีกครั้งว่า สว.ประสงค์เปิดอภิปรายทั่วไป หากรัฐบาลไม่มา ถือเป็นความรับผิดชอบรัฐบาล จะมีความผิดตามรัฐธรรมนูญ จะยื่นป.ป.ช.ตรวจสอบเรื่องนี้” นายเฉลิมชัย กล่าว
ขณะที่นายพรเพชร ชี้แจงว่า การที่ประธานวุฒิสภาจะบรรจุระเบียบวาระเรื่องนี้ได้ ต้องรอรัฐบาลมีมติหรือแจ้งมาว่า พร้อมจะมาเมื่อใด จึงบรรจุระเบียบวาระได้ ยืนยันเมื่อตนได้รับคำร้องขอเปิดอภิปรายทั่วไปจากวุฒิสภา ก็ส่งเรื่องไปให้รัฐบาลทราบอย่างรวดเร็ว รอฟังคำตอบจากรัฐบาลอยู่ กำหนดเวลาอภิปรายที่เผยแพร่ทางสื่อมวลชน ยังรับฟังไม่ได้ ต้องรอฟังจากคณะกรรมการประสานงานวุฒิสภา(วิปวุฒิสภา)ว่า นายกฯมีคำตอบอย่างไร จึงจะดำเนินการตามขั้นตอนข้อบังคับได้ การที่สว.กำหนดวันเวลาไว้ คงมีการต่อรองวันเวลาอีกครั้ง แม้ สว.กำหนดวันอภิปรายเดือนก.พ. แต่ถ้าฟังจากข่าวคงไม่ได้ ถ้ารัฐบาลยังไม่ตอบกลับมา จะสอบถามกลับไปใหม่