วันที่ 5 ก.พ.2567 เวลา 09.30 น.ที่รัฐสภา นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าวว่ารัฐบาลให้สว.อภิปรายในญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 153 ในวันที่ 18 มี.ค.ว่า เรื่องนี้เป็นการใช้สิทธิของวุฒิสภาเพื่อเปิดอภิปรายทั่วไป ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลและประชาชน และเป็นการใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้นรัฐบาลจะปฏิเสธการทำหน้าที่ของสว.ตามรัฐธรรมนูญไม่ได้ เพราะการทำหน้าที่ฝ่ายบริหารจะทำตามนโยบายและไปต่างประเทศสำคัญกว่าไม่น่าจะถูกต้อง เป็นการละเลยต่อหน้าที่ เพราะทั้ง 7 ประเด็นนานวันเข้าข้อเรียกร้องของประชาชน และข้อสงสัยถ้าปล่อยให้มีการดำเนินการในบางเรื่องอาจจะสร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างแก้ไขไม่ได้
“การที่วุฒิสภาเห็นว่ามีเรื่องที่สำคัญเพียงพอที่จะเปิดอภิปรายนี่คือมีความสุกงอมมากพอ และจำเป็นจะต้องให้เท่าทันกับช่วงเวลาที่จะเกิดปัญหา ซึ่งสว.ทำตามเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญทุกประการ ดังนั้นการที่รัฐบาลจะให้อภิปรายในเดือนมี.ค.หรือจะไปเดือนเม.ย.หรือปล่อยให้หมดวาระการดำรงตำแหน่งของสว.แล้วไม่ต้องอภิปรายเลย ผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่ควรกระทำ ถือเป็นการละเลยการทำหน้าที่ที่ของรัฐบาล”นายดิเรกฤทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่ามองว่าเป็นการดึงเวลาเพื่อให้สถานการณ์ต่างแผ่วลงไปหรือไม่ นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า เป็นเหตุผลที่ประชาชนคลางแคลงสงสัยเหมือนกัน ฉะนั้นการดึงเวลาไว้ไม่มีประโยชน์อะไรกับรัฐบาลเลย มีแต่เสีย รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับระบบรัฐสภา และตัวแทนของพี่น้องประชาชน ฉะนั้นเมื่อวุฒิสภาทำหน้าที่เหล่านี้ และมาแถลงข้อเท็จจริงปัญหาและข้อจำกัด เพื่อหาวิธีการจัดการกับเรื่องวิธีการที่รัฐบาลขับเคลื่อนเกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศและประชาชน
เมื่อถามว่ากรอบเวลาการอภิปรายที่รัฐบาลแจ้งมากี่วัน นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า วุฒิสภาทำเป็นหนังสือขอไป 2 วันคือวันจันทร์ และวันอังคารในเดือนก.พ. ดังนั้นรัฐบาลต้องยินยอมพร้อมใจหาวันให้เรา เพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องเร่งด่วน แต่รัฐบาลละเลยและเห็นความสำคัญกับเรื่องนี้น้อยไปหน่อย น่าตำหนิ ที่เห็นเรื่องอื่นสำคัญกว่า และให้เวลาเราเดือนมี.ค. ซึ่งยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำเพราะเป็นเพียงข่าวของแกนนำรัฐบาลบางคนเท่านั้น หากท่านติดภาระกิจอีกก็จะต้องไปอภิปรายในเดือนเม.ย.ใช่หรือไม่ และหากเดือนเม.ย.ไม่ได้เพราะปิดสมัยประชุมก่อน ก็ไม่ต้องมาอธิบายเลยใช่หรือไม่
เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่ประธานวุฒิสภายังไม่บรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องเร่งด่วนตามรัฐธรรมนูญ นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า ตนจะถามนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เหมือนกันว่าทำไมถึงยอมรัฐบาลให้เขาต่อรองได้ เพราะเรากำหนดไปแล้ว หากเขาไม่มาเราก็อภิปรายข้างเดียวไปเลย เพราะฉะนั้นระบบรัฐสภาเดินไปไม่ได้ ดังนั้นรัฐบาลต้องมาแถลงข้อเท็จจริง ชี้แจงข้อขัดข้อง