วันที่ 4 ก.พ.2567 นายราเมศ  รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวหลังการอ่านคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญคดีพรรคก้าวไกล ว่าขอเรียกร้องให้ หยุดการแสดงความคิดเห็นที่มีลักษณะเป็นการให้ร้ายโจมตีศาลรัฐธรรมนูญ ในสื่อสังคมออนไลน์มีการโพสต์ข้อความในลักษณะการปลุกปั่นในลักษณะไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นการกระทำที่ไม่ควรเกิดขึ้น นี่คือหลักการพื้นฐานในการเคารพกระบวนการยุติธรรม คดีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย แน่นอนมีทั้งคนที่พอใจและไม่พอใจ มีทั้งคนชนะและคนที่แพ้คดี แต่ทุกคนต้องน้อมรับคำตัดสินของศาล ไม่เช่นนั้นหลักการของบ้านเมืองเดินต่อไปไม่ได้ คดีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ชนะได้กลับเข้าสู่สภาฯ โห่ร้องไชโย พออีกคดีพรรคก้าวไกลแพ้ มีมวลชนโดยเฉพาะในสังคมออนไลน์กลับด่าทอ โจมตีศาลรัฐธรรมนูญอย่างเสียหาย พอชนะรูดซิปใส่กระเป๋าเงียบกริบ พอแพ้กลับทำตรงกันข้ามกัน แกนนำต้องอธิบายมวลชนให้เข้าใจอย่าส่งเสริมให้ท้าย

"คดีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ศาลไม่ได้เริ่มต้น ตั้งต้น หรือนั่งปั้นแต่งข้อเท็จจริง แต่เกิดขึ้นจากการมีผู้มาร้อง ศาลพิจารณาตามข้อเท็จจริงอย่างละเอียด ผู้ถูกร้องมีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริง นำพยานหลักฐานต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ การโดนโจมตีให้ร้าย ย่อมไม่เป็นธรรมต่อศาลรัฐธรรมนูญ บ้านเมืองหากไม่ยอมรับกระบวนการก็จะมีแต่ความขัดแย้งไม่จบสิ้น การวิจารณ์คำวินิจฉัยสามารถทำได้ แต่จะต้องกระทำโดยสุจริต และที่สำคัญต้องไม่ใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย เสียดสี โจมตีด้วยข้อมูลที่บิดเบือน ระวังหากวิจารณ์ในลักษณะละเมิดศาลก็จะถูกดำเนินคดี" นายราเมศ กล่าว

 

#พรรคก้าวไกล #ศาลรัฐธรรมนูญ #ประชาธิปัตย์