กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับกุม "นายเอกลักษณ์ วารีชล" หรือ "เอก ปากน้ำ" อายุ 47 ปี ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินสำหรับตนเองโดยมิชอบฯ หลังพบร่วมกับ นายศรีสุวรรณ จรรยา, นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก และ น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ หรือการ์ตูน ข่มขู่เรียกรับเงิน นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว แลกกับการยุติเรื่องร้องเรียน ซึ่งนายเอกลักษณ์ถือเป็นคีย์แมนสำคัญระดับสั่งการ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 ก.พ.67 รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) สั่งการให้ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจค้นบ้านพักอดีตภรรยาของ นายเอกลักษณ์ วารีช ซึ่งพักอยู่กับลูกชาย วัย 4 ขวบ ภายในหมู่บ้าน ย่านเพชรเกษม 94 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค

โดยผลการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบเอกสารต้องสงสัยจำนวนหนึ่ง พร้อมบัญชีธนาคารที่เป็นชื่อของ นายเอกลักษณ์ พบมียอดเงินเข้าบัญชี 1 แสนบาท เหลืออยู่ 5 หมื่นบาท จึงเก็บเอาไปเป็นหลักฐาน พร้อมกับนำเอาโทรศัพท์อดีตภรรยาของผู้ต้องหาไปตรวจสอบด้วย เพราะพบมีการลบแชทไลน์และแชทใน stories อยู่หลาย 10 รายการ

ทั้งนี้ จากการสืบสวนพบผู้ต้องหารายนี้ชอบทำตัวลึกลับ แสดงตัวน้อยสุด ชอบแฝงตัวเข้าทำเนียบหรือสภาเพื่อหาข้อมูล ก่อนนำมาหาผลประโยชน์ และมักจะรับงานเป็นที่ปรึกษาโครงการ (ปั้นงบประมาณ) โดยใช้ความรู้ด้านเทคนิค ฝังปมหรือสร้างเงื่อนไข ใน TOR เพื่อคอนโทรลโครงการตั้งแต่เริ่มของบประมาณ การร่วมประมูล จนกลุ่มตนเองได้งาน หลังจากนั้นก็จะเอาปม หรือเงื่อนไข ที่แอบฝังไว้ใน ToR ส่งให้เพื่อนร่วมแก๊งไปตบทรัพย์ โดยที่เหยื่อแทบไม่รู้ตัว

 


#ศรีสุวรรณจรรยา #เจ๋งดอกจิก #อธิบดีกรมการข้าว