"วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ" ไม่สู้คดีที่ผู้ถือหุ้นกู้รายย่อย STARK ฟ้อง ยืนยันไม่ผิด แต่ไม่ระวัง
ดร.วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ ที่ปรึกษากฎหมาย ผู้ได้รับมอบอำนาจจากกลุ่มประชาชนผู้เสียหายจากหุ้นกู้สตาร์คกว่า 4,600 ราย เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 ม.ค.67 นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ผู้ถือุห้นใหญ่ บริษัทสตาร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK จำเลยที่ 1 ในคดี ผู้เสียหายหุ้นกู้อีกกลุ่มฟ้อง กรรมการบริษัท STARK 5 รายได้เดินทางไปห้องพิจารณาคดีที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เพื่อแถลงต่อศาล ด้วยน้ำเสียงร้องไห้ต่อศาล ยืนยันว่าตนไม่ผิด แต่ไม่ระวัง ขอให้ศาลกําชับทนายความของตนไม่ต้องสู้คดีนี้ จะช่วยเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น
สำหรับคำแถลงของนายวนรัชต์ ต่อศาลแพ่ง ระบุว่า รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งสําหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) และกลุ่มสตาร์ค แม้ว่าข้าพเจ้าจะไม่ได้เป็นผู้กระทําความผิดก็ตาม แต่ข้าพเจ้าก็รู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างยิ่งที่ไม่สามารถดูแลในรายละเอียดของการบริหารจัดการได้ ซ้ํายังไว้วางใจคนผิดจนทําให้เกิดการผิดพลาดและการทุจริตขึ้นในบริษัทสตาร์คและกลุ่มสตาร์ค แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสตาร์คนั้นเป็นเรื่องส่วนตัวของข้าพเจ้า ไม่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของข้าพเจ้า และข้าพเจ้ายังเห็นว่ากรรมการท่านอื่นไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย รวมทั้งพนักงานระดับล่างซึ่งถูกล่อลวงหรือบีบคั้นจนต้องปฏิบัติตามคําสั่งของผู้กระทําการทุจริต ซึ่งบุคคลเหล่านี้เป็นบุคคลที่ควรได้รับความเห็นใจและไม่สมควรที่ต้องร่วมรับผิดกับผู้กระทําความผิดที่ได้สั่งการให้กระทําด้วย ข้าพเจ้าสามารถรับรู้ได้ถึงความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัสของกลุ่มผู้ซื้อหุ้นกู้รายย่อยที่ต้องมาร่วมรับเคราะห์กรรมในครั้งนี้ด้วย ข้าพเจ้าจึงใคร่ขอความกรุณาศาลได้โปรดเร่งกระบวนการพิจารณาคดีนี้โดยเร็ว และได้กําชับทนายความของข้าพเจ้าไม่ต้องสู้คดีนี้ ทั้งนี้เพื่อที่จะได้รีบนําทรัพย์สินของข้าพเจ้าที่เหลืออยู่ไปบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้เสียหาย
นอกจากนี้ข้าพเจ้าในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทสตาร์คจะดําเนินการทุกวิถีทางเพื่อประโยชน์ของกลุ่มผู้ซื้อหุ้นกู้รายย่อยหรือจนกว่ากลุ่มผู้ซื้อหุ้นกู้รายย่อยจะได้รับการเยียวยาจนเสร็จสิ้น โดยในเบื้องต้นข้าพเจ้าจะทําหนังสือแสดงเจตนาของข้าพเจ้าส่งไปยังคณะกรรมการบริษัทสตาร์คขอให้เร่งยุติกระบวนการพิจารณาคดีที่เกี่ยวกับกลุ่มผู้ถือหุ้นกู้โดยเร็วที่สุด โดยยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น เพื่อให้กลุ่มผู้ถือหุ้นกู้ได้รับสิทธิโดยชอบธรรมตามกฎหมายอย่างเต็มที่ในการบังคับคดีเอากับทรัพย์สินของสตาร์ค อันได้แก่หุ้นและสิทธิ เรียกร้องเงินกู้ที่สตาร์คได้ให้บริษัท เฟลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทย แลนด์) จํากัด กู้ยืมไปเป็นจํานวนหลายพันล้านบาท เพราะหากเวลาเนินช้า ออกไปแล้ว กลุ่มผู้ถือหุ้นกู้อาจไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างเต็มที่เพราะบริษัท เฟลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จํากัด กําลังเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการ ซึ่งหมายถึงการถูกบังคับจากเจ้าหนี้รายใหญ่ให้ทําการปรับปรุงโครงสร้างหนี้และลดยอดหนี้ส่วนนี้ลงในอนาคตอันใกล้นี้
บัดนี้ความจริงปรากฏชัดในระดับหนึ่งแล้วว่า เงินจากการทุจริตจํานวน 8,000 ล้านบาทถูกนําไปซุกซ่อนที่ประเทศอังกฤษส่วนหนึ่ง และอีกจํานวนหนึ่งที่กรมสอบสวนคดีพิเศษตรวจพบว่าอยู่ในความครอบครองของผู้กระทําความผิด ซึ่งเงินทุจริตอยู่ที่ใคร คนนั้นจะต้องรับผิดชอบ ข้าพเจ้าได้แต่หวังว่าหน่วยงานของรัฐจะสามารถเร่งดําเนินการเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด และสามารถนําตัวผู้กระทําความผิดมาฟ้องลงโทษได้ในที่สุด ส่วนตัวของข้าพเจ้าจะต้องเผชิญกับเคราะห์กรรมอะไรบ้างก็ขอให้โชคชะตาเป็นผู้กําหนด ขอกราบขอบพระคุณศาลที่เคารพเป็นอย่างสูง
#วนรัชต์ตั้งคารวคุณ #ผู้ถือหุ้นรายย่อย #STARK #สตาร์ค #ดีเอสไอ