สยามรัฐ ยึดมั่นอุดมการณ์ปกป้องเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ยืนหยัดรับใช้สังคมด้วยจิตสำนึกแห่งความรับผิดชอบ...*...
แม้ผลสำรวจความเห็นประชาชนจากนิด้าโพลล่าสุดระบุว่าเสียงส่วนใหญ่คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 39.62 มองว่ากรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่เคยติดคุกเลยแม้แต่วันเดียว และนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจตั้งแต่เดินทางกลับประเทศไทย ก่อนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมนั้น จะไม่กระทบต่อความอยู่รอดของรัฐบาลนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ทว่า เป็นที่น่าสังเกตุว่าในโพลเดียวกันนี้ ก็มีผู้แสดงความเห็นมากถึงร้อยละ 21.98 มองว่าค่อนข้างมีผลเสียต่อเสถียรภาพรัฐบาลเช่นกัน...*...
อีกทั้งมีผู้แสดงความเห็นมากถึงร้อยละ 41.30 กังวลว่าการชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้ส่งตัวนายทักษิณกลับเข้าเรือนจำถึงจะไม่ลุกลามบานปลายเหมือนเมื่อคราวการชุมนุมของกลุ่มเสื้อเหลือง เสื้อแดง หรือ กปปส. แต่ก็มีโอกาสนำไปสู่วิกฤตการณ์ทางการเมืองรอบใหม่...*...
ผลสำรวจดังกล่าว ถือเป็นสัญญาณเตือนรัฐบาลอย่ามองข้ามอารมณ์ ความรู้สึกของประชาชนที่อาจปะทุกลายเป็นแรงกดดันทางการเมือง หากไม่มีการเปิดเผยข้อมูลที่ชัดเจนว่านายทักษิณป่วยเป็นอะไรกันแน่ อาการหนักหนาสาหัสเพียงไหน ถึงต้องนอนโรงพยาบาลตำรวจเป็นเวลากว่าร้อยวัน...*...
ยิ่งรัฐบาลนิ่งเฉยโดยกรมราชทัณฑ์ และคณะแพทย์ผู้รักษานายทักษิณเลือกปิดปากเงียบ โดยอ้างกฎหมายคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคลเป็นเกราะคุ้มกัน ยิ่งเป็นปัญหาต่อรัฐบาล และเลยเถิดไปถึงภาพลักษณ์กระบวนการยุติธรรม และวงการแพทย์ให้ถูกมองว่ามีสองมาตรฐาน คนรวยคนมีอำนาจได้รับอภิสิทธิ์พิเศษ เหมือนดังที่นักเคลื่อนไหวทางการเมือง กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมอย่าง “รุ้ง” นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล เคยโพสต์เล่าประสบการณ์ ว่า "ตอนที่เราอยู่ในเรือนจำ รอบที่มีการอดอาหาร เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำข้อมูลอาการของเราเผยแพร่ต่อสาธารณะหลายโอกาส ทั้งที่ไม่ได้มีการขอความยินยอมด้วยซ้ำ ทั้งมีการถ่ายภาพไว้ทุกครั้งที่มีการตรวจด้วย พอเรามารู้ทีหลังว่ามีการเผยแพร่ (แต่ไม่ได้แพร่ภาพนะคะ)เราจำได้ว่าเราถามจนท.ราชทัณฑ์ว่าทำไมมีการเผยแพร่โดยไม่บอกเราเลย เขาให้คำตอบว่า เพราะเป็นคดีที่มีความสนใจของสาธารณะสูง เลยต้องเปิดเผยได้ เลยจะบอกเฉยๆ ว่า นายทักษิณก็มีคนสนใจทั้งประเทศ อาจจะยิ่งกว่าพวกเรานักกิจกรรมด้วยซ้ำนะคะ ไม่สองมาตรฐานยังไงก่อน คือมันดีมากแล้วแหละที่ราชทัณฑ์จะดูแลผู้ที่แก่และป่วยอย่างดี แต่ไม่ได้ทำแบบนี้กับทุกคนไง มันเหลือจะเชื่อสำหรับคนที่เคยเข้าไปอยู่ในเรือนจำจริงๆ นะ เป็นไปได้ยังไงที่เข้าไปเรือนจำ อยู่ยังไม่ถึง 6 ชั่วโมงด้วยซ้ำแล้วได้ออกมานอนที่รพ.ยาวๆ ในขณะที่คนป่วยคนอื่นก็อยู่ตามมีตามเกิดไป การที่คนจะมีคำถามต่ออาการป่วยของนายทักษิณนั้นไม่แปลกเลย" ...*...
น่าสนใจว่าสุดท้ายแล้ว ใครจะช่วยแสวงหาความจริงเกี่ยวกับอาการนายทักษิณให้ประชาชนได้รับ ทราบ จะฝากความหวังกับผู้แทนราษฎรที่เลือกเข้าไปคงยาก เพราะก่อนหน้านี้กรรมาธิการตำรวจเคยทำท่าขึงขังในการตรวจสอบเรื่องนี้ แต่ทำไปทำมาก็แผ่วไปเฉยๆ ทำได้แค่ยกทีมไปรพ.ตำรวจให้เป็นข่าวเท่านั้น ไม่อาจหาคำตอบได้ว่านายทักษิณป่วยจริงหรือไม่ และยังพักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 ไหม ...*...
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในศึกซักฟอกรัฐบาลแบบไม่มีการลงมติของส.ว.ที่จะมีขึ้นในเร็ววันนี้ โดยมุ่งไปที่ 7 ประเด็นทั้งเศรษฐกิจ สังคม รวมถึง ปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมาย ในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังตามคำพิพากษาที่สะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการยุติธรรม 2 มาตรฐาน การบังคับใช้กฎหมายที่ไม่มีประสิทธิภาพ ช่วยพวกพ้องหาผลประโยชน์ส่วนตัว สร้างมาตรฐานในกระบวนการที่บิดเบี้ยว ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่ไม่เท่าเทียมนั้น จะเป็นการเติมเชื้อให้กรณีนายทักษิณเป็นประเด็นร้อนแรงยิ่งขึ้น ส่วนจะถึงขั้นแผดเผารัฐบาลหรือไม่ อีกไม่นานคงได้รู้กัน ...*...
ที่มา:เจ้าพระยา (25/01/67)