วันที่ 24 ม.ค.2567 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี ที่นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล กล่าวหากองทัพเรือว่า ทหารเอาบ้านหลวงไปปล่อยเช่า ในโครงการนาวีเพลส ซึ่งตนได้สอบถามและตรวจสอบไปยังกองทัพเรือแล้วยืนยันว่ามีการปล่อยให้เช่าจริง ในโครงการนาวีเพลส ซอยเฉลิมพระเกียรติ 48 กรุงเทพฯซึ่งเป็นโครงการของสหกรณ์เคหสถานราชนาวี มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้สมาชิกของสหกรณ์ฯ มีบ้านอยู่อาศัยยามเกษียรโดยสหกรณ์ฯ ดังกล่าวมีสถานะเป็นนิติบุคคล ตามกฎหมายแยกจากกองทัพเรือ เป็นคอนโดขาย 5 ตึกและทาวน์โฮม 15 หลัง รวมทั้งสิ้น 235 ยูนิต ซึ่งตรวจสอบพบ ในเว็บซื้อขายให้เช่าบ้านที่ดิน มีลงขาย/ให้เช่า จริง ซึ่งอาจทำให้นายจิรัฏฐ์ มีข้อมูลไม่ครบถ้วนเลยเข้าใจผิดว่าเป็นโครงการอาคารพักอาศัยส่วนกลางของทางราชการและเอาไปปล่อยเช่า แต่ในความเป็นจริงโครงการดังกล่าวเขาเปิดขายขาด ทำบนที่ดินของสหกรณ์ถือกรรมสิทธิ์ไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดินเมื่อเขาซื้อไปแล้วก็เป็นสิทธิ์ของเจ้าของ เขาจะไปลงประกาศขายหรือให้เช่าก็เป็นสิทธิ์ของเขา
นายจิรายุ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในกรณีมีการด้อยค่าที่ตนยกมือไหว้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาองคมนตรี ในงานเลี้ยง ตนขอเรียนว่าพ่อแม่ตนสั่งสอนมาว่า เมื่อเจอผู้ใหญ่ผู้อาวุโส ต้องยกมือไหว้ ไม่จำเป็น ต้องเป็นพลเอกประยุทธ์ เป็นผู้ใหญ่ท่านไหนตนก็ไหว้ หรือเจอใครก่อนแม้จะอ่อนกว่าก็ไหว้สวัสดี เพราะตนเป็นคนมือไม้อ่อนตั้งแต่เด็ก ที่สำคัญตอนพลเอกประยุทธ์เป็น หัวหน้า คสช.ไม่เคยเจอก็เลยไม่เคยไหว้ พอมาเป็นนายกฯเจอในรัฐสภา กี่ครั้งด้วยมารยาทก็ต้องยกมือไหว้ แถมวันกองทัพบกที่ผ่านมาเจอทั้งท่านพลเอกชวลิต ยงใจยุทธท่านนายกรัฐมนตรี ท่านอนุทิน ชาญวีรกุลและผู้ใหญ่ฝ่ายรัฐบาล ตนก็ยกมือไหว้ทุกท่านตามปกติ
“ผมเป็นคนไทยที่ถูกครูบาอาจารย์ พ่อแม่สอนมาให้มีสัมมาคารวะ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามเมื่อผมเจอผู้อาวุโสกว่าก็ควรต้องไหว้ เว้นอย่างเดียวเสาไฟฟ้า ที่ผมไม่ไหว้ “
นายจิรายุ กล่าวว่า เจตนารมย์ของตนยังเหมือนเดิมต่อสู้กับการปฏิวัติรัฐประหารเผด็จการ มาโดยตลอดปฎิวัติปี57 โดนจับไปขัง7วันไม่เคยลืมแต่วันนี้เป็นรัฐบาลตามระบอบประชาธิปไตยมาปีที่ 5 อะไรที่ต้องปรับปรุงต้องแก้ไขปัญหา เป็นหน้าที่ของรัฐบาลและฝ่ายค้านต้องช่วยกัน วันนี้ตนมาเป็นโฆษก กห.ก็ทำหน้าที่ในฝ่ายบริหาร ถ้าฝ่ายค้านอย่างพรรคก้าวไกลตั้งตนเป็นโฆษกผู้นำฝ่ายค้าน ตนก็จะทำหน้าที่ ให้เต็มกำลัง
การแก้ไขปัญหาประเทศนี้ไม่มีทางจะแก้ไขได้แบบพลิกฝ่ามือได้ เฉกเช่น กรุงโรมไม่สามารถสร้างได้ภายในวันเดียว ตนคิดอย่างเดียวว่าการดำรงชีวิตในโลกยุคใหม่นี้จะเอาแค่มันส์ แค่เกรียน อย่างเดียวไม่ได้ต้องมีสติและปัญญาใช้ความรู้ความสามารถรวมพลังกันเพื่อแก้รากของปัญหาที่สะสมมากว่า 80 ปี และนำประเทศไทยกลับมาผงาดในเวทีโลกอีกครั้ง