วันที่ 16 ม.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ลงนามในประกาศศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องอาณาบริเวณหรือพื้นที่ที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญ และสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติงาน รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย มีรายละเอียด ดังนี้ ด้วยศาลรัฐธรรมนูญกำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ประชุมปรึกษาหารือ ลงมติและอ่านคำวินิจฉัย จำนวน 3 เรื่อง ณ ที่ทำการศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์
ดังนี้ 1.วันพุธที่ 17 ม.ค. เวลา 14.00 น. กรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ว่า สมาชิกภาพนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 187 หรือไม่ จากกรณียังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น ทำให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้น หรือกิจการของห้างหุ้นส่วนเป็นการกระทำต้องห้าม ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 ประกอบพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี มาตรา 4(1)
2.วันพุธที่ 24 ม.ค. เวลา 14.00 น. กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ร้อง) ส่งคำร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ถูกร้อง) เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อสารมวลชนใดๆ อยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่
3.วันพุธที่ 31 ม.ค. เวลา 14.00 น. กรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความอดีตพระพุทธะอิสระ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่าการกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ขณะนั้น ในฐานะผู้ถูกร้องที่ 1 และ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ถูกร้องที่ 2 เสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่…) พ.ศ. … เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งและยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่
ประกอบกับ หน่วยงานทางความมั่นคง ได้แจ้งต่อศาลรัฐธรรมนูญว่าอาจมีสถานการณ์ที่มีสิ่งบอกเหตุหรือข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าอาจจะมีเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยและความไม่สงบเรียบร้อยเกิดขึ้น เพื่อให้กระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อาศัยอำนาจตามความมาตรา 38 วรรคสอง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 ประกอบข้อ 4 ข้อ 5 และข้อ 8 (8) ของข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2562 และข้อ 16 ของระเบียบศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในที่ทำการศาล พ.ศ.2562 ประธานศาลรัฐธรรมนูญโดยความเห็นชอบของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจึงออกประกาศ กำหนดอาณาบริเวณหรือพื้นที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ เป็นพื้นที่ชั้นนอกในการรักษาความและความสงบเรียบร้อย บุคคลและยานพาหนะที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในพื้นที่ ต้องผ่านการตรวจของเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานซึ่งมีหน้าที่ด้านการรักษาความปลอดภัย
นอกจากนี้ ยังกำหนดพื้นที่พื้นที่ภายในที่ทำการศาลรัฐธรรมนูญ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ และอาคารบ้านเจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ และพื้นที่ที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดตามแนวเขตแผนที่ (ตามประกาศแนบท้าย) เป็นพื้นที่ควบคุมตามข้อ 14 ของระเบียบศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในที่ทำการศาล พ.ศ.2562 ขณะเดียวกัน ยังกำหนดห้ามผู้ใดเข้ามาในพื้นที่ควบคุม เว้นแต่ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้มาปฏิบัติงาน หรือมาติดต่อราชการ และต้องผ่านการตรวจตัวบุคคลและสิ่งของที่นำมา ตามวิธีการของเจ้าหน้าที่ด้านการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย
ทั้งนี้ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตามวันและเวลา ดังนี้ 1.วันพุธที่ 17 ม.ค. เวลา 00.01 น.ถึงเวลา 23.59 น.สำหรับการอ่านคำวินิจฉัยกรณีของนายศักดิ์สยาม 2.วันพุธที่ 24 ม.ค. เวลา 00.01 น. ถึงเวลา 23.59 น. สำหรับการอ่านคำวินิจฉัยนายพิธา ถือครองหุ้นไอทีวี และ 3.วันพุธที่ 31 ม.ค. เวลา 00.01 น. ถึงเวลา 23.59 น. สำหรับการอ่านคำวินิจฉัยกรณีเสนอแก้ไขนโยบาย มาตรา 112 เพื่อใช้หาเสียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการอ่านคำวินิจฉัย ทั้ง 3 คดี สำนักงานได้อำนวยความสะดวกด้วยการเปิดช่องทางการรับฟังคำวินิจฉัยผ่านช่องทางยูทูบของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ และติดตั้งจอทีวีพร้อมลำโพงไว้ หน้าอาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ บริเวณเสาธง สำหรับประชาชนที่เดินทางมาร่วมรับฟังด้วย