จับยัดคุก ผัวเมียคน เลี้ยง“น้องนาย”เด็กวัย 2 ขวบยัดตู้เย็นย่านบางบัวทอง หลังตำรวจเค้นสอบเปิดปาก อ้างข้าวเหนียวติดคอขณะป้อนอาหาร กลัวความผิดไม่กล้าแจ้งตำรวจ ขณะที่พ่อแท้ๆไม่ปักใจเชื่อคำให้การ 


จากกรณีเมื่อช่วงเช้า วันนี้ 6 ม.ค.67 น้องนาย หรือด.ช.ธีรพงศ์ อายุประมาณ 2 ขวบ ถูกพันด้วยผ้าห่มถูกยัดไว้ในตู้เย็นที่เสียบปลั๊กไว้อยู่ โดยใส่ในถุงผ้าเหมือนกระเป๋าเดินทาง หัวเด็กอยู่ด้านล่างกระเป๋า ห่อด้วยผ้าห่ม มีตุ๊กตา 1 ตัว มีสายสิญจน์จากคอ แขน ขารอบตัว ตามตัวเด็กมีรอยเขี้ยวเหมือนรอยกัดที่ขา 2 ข้าง ตรงน่อง และรอยช้ำตามตัว ตอนนี้ศพเน่าแล้วเลยดูใบหน้าไม่ได้ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน เหตุเกิดเหตุบริเวณบ้านเลขที่ 2/613 หมู่บ้านรัตนาธิเบศร์ ซ.11/2 ม.13 ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จนนำมาสู่การสอบสวน น.ส.มาริสา หรือก้อย อายุ 25 ปี ที่อยู่กับเด็ก โดยให้การว่าอาศัยอยู่กับผู้ชายที่ชื่อแบงค์ ซึ่งเป็นแฟนกัน โดยนายแบงค์เป็นเจ้าของบ้าน แต่เด็กที่ตายพ่อแม่เด็กแท้ๆติดยา ทั้ง 2 คนจึงเอามาเลี้ยงไว้ ก่อนเกิดเหตุ นอนอยู่กับเด็กและเห็นมดขึ้นตา ที่มือและปากมีข้าวเหนียวคาอยู่  ตนจึง รอแบงค์กลับมาจากข้างนอก หลังจากนั้นจึงเอาเด็กยัดใส่ถุงก่อนเพราะกลัว เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้หนีไปไหนต่อมาช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายหาญณรงค์ หรือแบงค์ อายุ 31 ปี เดินทางไปให้ปากคำที่สภ.บางบัวทอง

 
ขณะที่ นายนพรัตน์ อายุ 29 ปี (พ่อแท้ๆของน้องนาย) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนทำงานไม่มีเวลาเลี้ยงน้องนาย นายแบงค์เลยขอลูกตนไปเลี้ยงดูได้ประมาณ 2 เดือน ตนให้นายแบงค์วันละ 500 บาท และไม่เคยเลี้ยงปล่อยละเลยหรือเอาลูกไปไว้ในกรงหมามีเห็บเต็มหัว ตามที่ใครกล่าวอ้าง ตนเห็นนายแบงค์รักเด็กและตนไม่มีเวลาเลยไว้ใจ สงสารลูกด้วยเลยให้เอาไปเลี้ยง เจอน้องนายล่าสุดเมื่อเดือนธันวาคม แต่ไม่เคยพบบาดแผลตามตัว ช่วงหลังๆนายแบงค์เริ่มไม่เอาน้องนายมาหาและบ่ายเบี่ยงตลอดว่าอยู่บ้านแม่ ไม่ส่งรูปมาให้ดูตั้งแต่หลังปีใหม่
 ตอนนี้ตนยังไม่ได้คุยกับนายแบงค์ และไม่เชื่อคำให้การ ถ้าเกิดเหตุข้าวเหนียวติดคอจริงทำไมไม่บอกตั้งแต่วันแรก แทนที่จะบอกแต่กลับไม่บอกอะไรเลย ตนเห็นข่าวเลยรู้ว่าน้องนายเสียชีวิต นายแบงค์มีอารมณ์ร้อนและพฤติกรรมรุนแรง เมื่อคืนนี้ตนได้มีการพูดคุยกับนายแบงค์เรื่องน้องนาย บอกว่าจะพาไปเที่ยวเกาะล้าน เมื่อคืนตนยังโอนเงินไปให้นายแบงค์ 300 บาท ตนพูดไม่ออก เสียใจที่น้องนายเสียชีวิต ตนรักลูกมากแต่ตนไม่มีเวลาเลี้ยงเอง คิดถึงลูกมากๆ อยากให้นายแบงค์ยอมรับความผิด มันผิดพลาดไปแล้วคงแก้ไขไม่ได้

ด้าน พล.ต.ต. ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนทบุรี กล่าวว่า ฝ่ายผู้ต้องหาให้การว่าพ่อบุญธรรมของนายแบงค์เป็นคนป้อนอาหารเด็กด้วยข้าวเหนียว อาจจะไปอุดหลอดลมเป็นเหตุให้เสียชีวิต สาเหตุที่ไม่กล้าเอาไปโรงพยาบาลเนื่องจากกลัวความผิด เพราะเด็กอยู่ในบ้าน และน่าจะไม่ทราบกฎหมายว่าหากแจ้งความสามารถชันสูตรถึงสาเหตุการเสียชีวิตได้ จากการตรวจที่เกิดเหตุทราบว่าขณะนายแบงค์เขย่าตัวเด็กมีข้าวเหนียวหล่นลงมาจากปาก และมีในมือเด็กกำไว้ เราไม่ได้เชื่อทั้งหมดแต่ต้องรอผลจากนิติวิทยาศาสตร์

 
ส่วน นายแบงค์และน.ส.ก้อยน่าจะเป็นคนนำเข้าตู้เย็น ซึ่งเด็กเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. แต่ไม่ได้นำศพเข้าตู้เย็นตั้งแต่แรก หลังจากนั้นเริ่มมีกลิ่น จึงนำเข้าตู้เย็นเพราะคิดว่าจะรักษาสภาพไม่ให้มีกลิ่นได้ น่าจะเพิ่งนำเข้าตู้เย็นเมื่อเช้านี้ โดยขณะที่เลี้ยงเด็กมีใช้มือตีบ้าง และรับสารภาพว่ามีร่องรอยฟันที่ขาเด็ก คือเวลาเด็กดื้อจะมีทั้งตีและกัด ซึ่งทั้งหมดนี้คือพยานหลักฐาน เพราะร่องรอยต่างๆไม่ถึงกับเสียชีวิต ต้องรอผลจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนไม้ มีดทั้งหมดมีอยู่ในบ้านอยู่แล้วเป็นปกติ ต้องรอพิสูจน์หลักฐานอีกที และผู้ต้องหาให้การเบื้องต้นว่าเป็นอุบัติเหตุ เรื่องไสยศาสตร์ไม่มี ตนคิดว่ากรณีใช้สายสิญจน์มัดเพราะว่าเด็กตัวแข็งเลยใช้บางสิ่งบางอย่างมัดเพื่อเอาผ้าห่อก่อนนำเข้าตู้เย็น ผู้ต้องหาแจ้งว่าหาอะไรมัดได้ก็มัด ส่วนข้อหาที่ได้แจ้งกับนายแบงค์และ น.ส.ก้อย ไว้ 2 ข้อหา คือ 1.ไม่แจ้งการตาย 2.ปิดบังซ่อมเร้นอำพางศพ ต้องรอผลชันสูตรอีกเพิ่มเติม