เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 7 ม.ค.67 ที่สภ.บางบัวทอง นายสมบุญ ไพรพนม (ปู่ของแบงค์) ,นางยุพา ไพรพนม (ย่าของแบงค์) และน.ส.นาริสรา ไพรพนม หรือกิ๊ก (น้องสาวแบงค์) เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนเรื่องการเสียชีวิตของน้องนายเด็กชายวัย 2 ขวบ โดยใช้เวลาในการให้ปากคำประมาณ 20 นาทีก่อนที่ทั้ง 4 คน รวมทั้งก้อย ได้ขึ้นรถมีเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถพาไปส่งที่วัดไผ่เหลือง (พระอารามหลวง) อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เพื่อร่วมพิธีสวดอภิธรรมศพของน้องนาย ที่ทางพ่อน้องนาย ได้จัดพิธีขึ้นเป็นเวลา 1 คืน และจะฌาปนกิจศพน้องในวันพรุ่งนี้เวลา 09.00 น. ทั้ง 4 คนแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องนายเป็นครั้งสุดท้าย

นายนพรัตน์ อายุ 29 ปี (พ่อแท้ๆ ของน้องนาย) กล่าวว่า ตนยังไม่เชื่อว่าข้าวเหนียวติดคอลูกชายตนน่าจะเป็นการทำร้ายมากกว่า เพราะมีคนข้างบ้านเล่าให้ฟังว่าก่อนหน้าที่น้องนายจะเสียชีวิตมีการตบตีลูกของตนมาตลอด อยากให้ตำรวจดำเนินคดีไปตามกฏหมาย ถ้าจะมาขอขมาตนก็พร้อมให้อภัยเพราะเรื่องมันเกิดขึ้นแล้วคงจะกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ สวดศพแค่หนึ่งคืนเพราะร่างของน้อง และ ถ้าน้องนายได้ยินพ่ออยากจะบอกว่าพ่อรักลูกมาก

ขณะ ที่สภ.บางบัวทอง พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รองผบก.ภ.จว.นนทบุรี ได้ประชุมเกี่ยวกับคดี และให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า วันนี้ทางรองผู้อำนวยการสถาบันนิติเวช นิติวิทยาศาสตร์ได้ผ่าพิสูจน์ศพน้องนาย และแจ้งผลอย่างไม่เป็นทางการ เบื้องต้นพบเศษอาหารติดค้างอยู่ในลำคอ ไม่พบ บาดแผลหรือร่องรอยที่ถูกทำร้ายเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต คดีนี้ได้ดำเนินคดีกับ 2 สามี-ภรรยา ที่รับเด็กคนตายมาเลี้ยง 1.ไม่แจ้งการตาย 2.ปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ ส่วนนายแบงค์มีอีก 1 ข้อหา คือเสพสารเสพติด ทั้ง 2 คนอ้างว่าตกใจทำอะไรไม่ถูก รวมทั้งเด็กมีบาดแผลจากร่องรอยการถูกกัด จึงกลัวว่าตำรวจจะดำเนินคดีกับพวกเขา แผลที่เป็นรอยคือนายแบงค์เป็นคนกัด อ้างว่าทำโทษ ส่วนคุณปู่ให้ข้าวธรรมดา ไม่ได้ถูกดำเนินคดีเพราะพิการ และจากการสืบสวนทราบว่าเลี้ยงน้องนายด้วยความรัก คงไม่คิดทำร้าย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดๆ และสืบหาข้อเท็จจริงเพื่ออธิบายให้สังคมได้รับทราบ 

จากการสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ และบริเวณใกล้เคียง ตอนนี้รอผลชันสูตรเป็นทางการอีกที คาดว่าวันพุธนี้ผลจะออกอย่างเป็นทางการ ทั้ง 2 ให้การทั้งเป็นประโยชน์และยังปกปิดบางอย่าง ขอสอบให้ละเอียดอีกครั้งให้ได้ข้อเท็จจริง ส่วนน้องสาวนายแบงค์อยู่ระหว่างสอบปากคำ บางอย่างให้ข้อมูลสอดคล้องอยู่ ตอนนี้น้ำหนักไปทางอุบัติเหตุมากกว่า ตัวพ่อน้องนายมีสิทธิที่จะไม่เชื่อถึงสาเหตุการตายของน้อง มีอีกหลายประเด็นที่ต้องสอบเพิ่มอยู่ในสำนวน ส่วนน.ส.กิ๊ก (น้องสาวของนายแบงค์) ถือว่ามีส่วนร่วมรู้เห็นกับการอำพรางศพ และต้องมีการสอบปากคำเพิ่ม