สยามรัฐ ยึดมั่นอุดมการณ์ปกป้องเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ยืนหยัดรับใช้สังคมด้วยจิตสำนึกแห่งความรับผิดชอบ ...*...
ประเมินกันว่าการเมืองปีหน้าจะเข้าสู่โหมดร้อนแรง โดยมีนายทักษิน ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นตัวแปรสำคัญ หลังมีการประกาศใช้ระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566 ที่มีหลายฝ่ายมองว่านายทักษิณได้รับประโยชน์จากระเบียบฉบับนี้แบบเต็มๆ ...*...
“ถ้าหากจะพิจารณาถึง พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 และกฎกระทรวง เรื่องกำหนดสถานที่คุมขัง พ.ศ.2563 ลงวันที่ 25 กันยายน 2563 เพียงแค่นี้ ก็อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับการถูกคุมขังของคุณทักษิณโดยตรง แต่ต้องพิจารณาถึงการออกระเบียบของกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566 ลงวันที่ 6 ธันวาคม 2566 เป็นหัวใจของการนำตัวคุณทักษิณออกจากเรือนจำไปคุมขังอยู่ที่บ้าน ซึ่งเป็นช่องทางเดียวที่ทำให้คุณทักษิณได้รับการปลดปล่อยออกจากเรือนจำก่อนกำหนด”นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ระบุพร้อมกับขยายความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวด้วยว่า ถ้าจะไปใช้ระเบียบการพักโทษทั่วไป ก็ยังไม่เข้าเงื่อนไข เพราะนายทักษิณถูกจำคุกเพียง 4 เดือน หรือหวังจะรอการออกพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษในวันที่ 5 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ก็ไม่มีพระราชกฤษฎีกาออกมา ทำให้กรมราชทัณฑ์ต้องเร่งรีบออกระเบียบว่าด้วยการคุมขังนอกเรือนจำ แสดงให้เห็นว่านายทักษิณพร้อมที่จะได้รับการพิจารณา ได้สิทธิ์ตามประกาศฉบับดังกล่าวในทันที ...*...
ที่ผ่านมานั้น นายทักษิณก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดอยู่แล้วว่าเป็นนักโทษเทวดา สุดยอดอภิสิทธิ์ชน เพราะเข้าคุกไม่ทันข้ามคืน ก็ถูกส่งตัวมาที่รพ.ตำรวจ โดยอ้างว่ามีอาการเจ็บป่วย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมงยังโชว์ความกระฉับกระเฉิง เดินฉิว สีหน้าสดใส ยิ้มแย้มโบกไม้โบกมือทักทายบรรดาลูกหาบที่แห่แหนไปต้อนรับถึงสนามบิน ...*...
ซ้ำร้ายนอนโรงพยาบาลมาหลายเดือน โดยไม่มีการชี้แจงอย่างชัดเจนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สาธารณชนได้หายข้องใจว่าอาการป่วยของนายทักษิณแท้จริงแล้ว หนักหนาสาหัสขนาดไหน ถึงต้องพักรักษาตัวนานขนาดนี้ ...*...
จึงไม่แปลกที่จะมีคนลงถนนชุมนุมต่อต้าน หากมีการฉวยโอกาสใช้ระเบียบกรมราชทัณฑ์ฉบับนี้ พานายทักษิณออกจากโรงพยาบาลแล้วตรงกลับบ้าน ไม่ต้องติดคุกจริงๆ แม้แต่วันเดียว …*…
ว่าไปแล้วนายทักษิณก็เคยมีบทเรียนมาแล้วกับการมองข้ามความรู้สึกของประชาชนเมื่อตอนที่ขายหุ้น ชินคอร์ปให้เทมาเส็กมูลค่ากว่า 7 หมื่นล้านบาท โดยไม่เสียภาษีแม้แต่บาทเดียว ด้วยการอ้างว่าได้รับการยกเว้นตามกฎกระทรวงการคลัง กระทั่งประชาชนจำนวนมากออกมาเดินขบวนประท้วง เกิดเหตุวุ่นวายจนนำไปสู่การทำรัฐประหารในปี 2549 ...*...
และอีกบทเรียนในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง แทนที่จะโฟกัสเฉพาะผู้ที่ออกมเคลื่อนไหวแสดงออกทางการเมือง กลับเลยเถิดเอื้อให้นายทักษิณพ้นผิดจากคดีทุจริตด้วย ทำให้มีการประทัวงต่อต้าน และลุกลามบานปลายเป็นการขับไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ มีการปลุกระดมมวลชนออกมาเผชิญหน้า ทำให้ทหารต้องออกมาทำรัฐประหาร ป้องกันไม่ให้เกิดสงครามกลางเมือง คนไทยไบ่ฆ่ากันเอง ...*...
มาคราวนี้พรรคเพื่อไทยกลับมากุมอำนาจบริหารประเทศโดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้า หากยังคิดถึงผลประโยชน์ของนายทักษิณมากกว่าความรู้สึกประชาชน ก็มีโอกาสไม่น้อยที่กงล้อประวัติศาสตร์จะหมุนวนกลับมาย่ำรอยเดิม ฉุดให้ประเทศไทยติดหล่ม ตกอยู่ใน “หลุมดำ” อีกครั้ง ...*...
ที่มา:เจ้าพระยา (21/12/66)