อนุทิน รับ พา เนวิน เข้าพบ ทักษิณ - นายกฯ อิ๊งค์ บ้านจันทร์ส่องหล้าจริง ปัดเคลียร์ใจ ลั่น ภท.ไม่เคยขวาง พท. กำชับศึกซักฟอก สส. - รมต. ภูมิใจไทย ห้ามโดด พร้อมช่วย นายกฯ คาดโทษถ้าหาย ลุงป้อม อภิปรายสั้น - ยาว ต้องฟัง ด้าน ภูมิธรรมปัดตอบ หลัง กกต ทำหนังสือไม่ร่วมถก บอร์ดกคพ. วันที่ 6 มี.ค.นี้ ส่วน ฉัตรวรรษ เตือน ดีเอสไอ อย่าใช้อำนาจเกินรธน. ปมคดีฮั้วเลือก ส.ว.ส่อเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง
เมื่อเวลา 10.05 น. วันที่ 5 มี.ค.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวยอมรับถึงกระแสข่าวที่ได้พบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด และนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เมื่อวันที่ 2 มี.ค.โดยนายอนุทิน ได้ย้อนถามกลับสื่อว่าทราบได้อย่างไร พร้อมกับหัวเราะ ก่อนยอมรับว่าไปเป็นเรื่องปกติเป็นประจำอยู่แล้ว ก่อนถามกลับอีกครั้งว่า รู้ได้อย่างไร
เมื่อถามย้ำว่า นายเนวินได้ร่วมเดินทางไปด้วยใช่หรือไม่ นายอนุทิน ยอมรับว่า ตนเป็นคนชวนไป นัดกันวันหยุดอยู่กันพอดี พร้อมยอมรับด้วยว่ามีการหารือกันหลายเรื่อง แต่ไม่มีอะไรมาก และเป็นการขอคำแนะนำเนื่องจากนายทักษิณเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ มันก็ไม่มีคนอื่น ก่อนย้อนถามกลับสื่อมวลชนอีกครั้งว่า ใครหลุดออกมา
เมื่อถามย้ำว่า ยอมรับใช่หรือไม่ว่าได้เดินทางไปบ้านจันทร์ส่องหล้าจริง นายอนุทิน ถึงกับอุทานว่า โห่ ผมยืนอยู่ตรงนี้ก็พูดแล้วว่า ไปพบกันทุกเดือนเป็นเรื่องปกติ พร้อมระบุว่า เมื่อตนถามอะไร นายทักษิณก็ให้คำแนะนำดีๆเสมอ
เมื่อถามต่อว่า มีประเด็นการหารือเรื่องร่างพระราชบัญญัติเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และ เรื่องพระราชบัญญัติการพนันออนไลน์หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็คุยกันทุกเรื่อง ทั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และนโยบายรัฐบาล
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยเรื่องการจัดแข่งขันโมโตจีพีด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี ไม่ได้คุยเรื่องนี้ เพราะเรื่องนี้อีกนาน
เมื่อถามย้ำว่า ถือเป็นการเคลียร์ใจหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมา มีกระแสข่าวถึงรอยร้าวระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี เพราะตนคุยกับนายทักษิณ เป็นประจำอยู่แล้ว ไม่คุยโทรศัพท์ก็คุยไลน์ ไม่เคยมีอะไรที่เป็นปัญหา ส่วนหลังจากนี้จะมีประเด็นออกมาอีกหรือไม่ว่าพรรคภูมิใจไทยขวางพรรคเพื่อไทย หรือประเด็นรอยร้าว นายอนุทิน ถึงกับกล่าวว่า เดี๋ยวก่อนนะ ภูมิใจไทยเคยขวางอะไรเพื่อไทย หากผู้สื่อข่าวพูดแบบนี้ก็เอาอีกแล้ว เสี้ยมคนให้ชนกันอีกแล้ว ประเด็นไหนที่ไม่เห็นด้วยก็ต้องหารือกัน และก็มีข้อสรุปทุกครั้ง
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงกรณีการหารือที่บ้านจันทร์ส่องหล้า มีเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ว่า ตรงนั้นไม่ต้องพูดหรอก เราเชียร์กันมาตั้งแต่วันดินเนอร์พรรคร่วม ซึ่งตอนนั้นยังไม่ทราบว่านายกฯ จะถูกอภิปรายคนเดียว แต่พอวันรุ่งขึ้น ทราบว่านายกฯ ถูกอภิปรายคนเดียว ตนก็ออกมาให้ความมั่นใจว่า พรรคภูมิใจไทยสนับสนุนนายกฯ เต็มที่
เมื่อถามว่า เสียงโหวตของพรรคภูมิใจไทยจะเป็นแนวทางเดียวทั้งพรรคหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า วันนั้นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยห้ามลาห้ามขาด รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยทั้ง 8 คน ต้องอยู่ในสภาเตรียมข้อมูลที่ถูกพาดพิงก็ต้องตอบได้ เราจะไปหวังให้นายกฯ ตอบคนเดียวก็ไม่ได้ ท่านจะไปรู้เรื่องรายละเอียดได้อย่างไร แต่หากนายกฯ มีความประสงค์ที่จะตอบเองก็ต้องเตรียมข้อมูลนำเสนอให้นายกฯ เราสนับสนุนนายกฯอย่างเต็มที่
เมื่อถามว่า นายกฯ บอกว่า ได้มีการส่งข้อความไปขอความช่วยเหลือจากหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค นายอนุทิน กล่าวว่า ท่านก็พูดสนุกตลกไปเท่านั้น มีใครกล้าไม่ช่วย เป็นสปิริตอยู่แล้ว แต่ตนจำไม่ได้ ท่านก็ส่งแค่สติ๊กเกอร์ แต่ไม่ได้เป็นการขอให้ทุกคนช่วย นายกฯ ไม่ทำหรอก ใครปล่อยให้นายกฯ ทำอย่างนั้น ตนก็คงต้องโทรศัพท์ไปบอกให้นายกฯ ยกเลิกข้อความแล้ว มันเป็นหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี (ครม.)
เมื่อถามว่า มีการอภิปรายนายกฯ ช่วงเวลาที่เหมาะสมควรเป็นระยะเวลากี่วัน นายอนุทิน กล่าวว่า ขออย่ามองเป็นการอภิปรายนายกฯเพียงคนเดียว เพราะนายกฯ ถูกอภิปรายก็เหมือนรัฐบาลถูกอภิปรายทั้งหมด ซึ่งรัฐบาลก็คือรัฐมนตรีทุกคน นายกฯไม่มีกระทรวง
เมื่อถามว่า แต่ฝ่ายค้านไม่ได้ระบุว่านายกฯ และคณะ นายอนุทิน กล่าวว่า แล้วนโยบายของนายกฯ ขับเคลื่อนโดยใคร ก็ยังมีพาดพิงหลายเรื่องว่า กระทรวงนั้นจะโดน กระทรวงนี้จะโดน หากนายกฯ ต้องการชี้แจงเองก็จะเตรียมข้อมูลให้ แต่หากมีการพาดพิงชื่อรัฐมนตรี หรือตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงใด รัฐมนตรี ท่านนั้นก็มีสิทธิ์ใช้สิทธิ์พาดพิงในการชี้แจง เพราะไม่มีกฎอะไรที่จะห้าม
เมื่อถามว่า ส่วนการที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ด้วยนั้น นายอนุทิน ย้อนถามกลับว่า อ๋อ เหรอ ก็ดีเพราะไม่ได้เห็นท่านในสภามานาน คิดถึง
เมื่อถามว่า หวังต่อการอภิปรายของพล.อ.ประวิตร หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราต้องให้ความเคารพต่อการอภิปรายของสส.ทุกคน ถ้านักข่าวถามถึง พล.อ.ประวิตรท่านก็เป็นสส. แล้วระดับท่านพูดอะไรมาก็ต้องมีน้ำหนัก แม้ว่าจะสั้นจะยาวก็มีน้ำหนัก
เมื่อถามว่า ในฐานะที่ทำงานร่วมกันมารู้สึกเกร็งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คนละบทบาทหน้าที่ วันนี้เราเป็นบทบาทรัฐบาล แม้คนที่เราเคยทำงานร่วมกันมา แต่วันนี้มีบทบาทเป็นฝ่ายค้าน เราก็ต้องรับฟังและชี้แจง เมื่อฝ่ายค้านซักฟอกรัฐบาลชี้แจง ถ้าชี้แจงได้ก็รอด แต่หากชี้แจงไม่ได้ก็ไม่รอด ถึงแม้จะรอดมือ แต่ไม่รอดสังคม เพราะฉะนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือ ต้องชี้แจงให้ได้ นำข้อเท็จจริงออกมาให้มากที่สุด ซึ่งหน่วยงานที่ตนกำกับดูแลทั้ง 4 กระทรวงพร้อมอยู่แล้ว รัฐมนตรีคนไหนไม่พร้อม ตนก็ตัดสินรัฐมนตรีในส่วนของตนได้ หากไม่อยู่ก็ one way ticket ก่อนกล่าวย้ำว่า พูดถึงรัฐมนตรีภูมิใจไทยคนอื่นไม่เกี่ยว
เมื่อถามว่า เห็นข้อมูลของ พล.อ.ประวิตรที่จะอภิปราย จะทำให้รัฐบาลสั่นสะเทือนถึงขั้นยุบสภาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ต้องฟังการอภิปรายก่อน เพราะไม่รู้ว่ามีข้อมูลอะไรบ้าง ของพวกนี้มันโกหกไม่ได้ คนที่อภิปรายเขาก็มีหลักฐาน คนที่ถูกชี้แจงก็ต้องแก้ต่าง ขึ้นอยู่กับวิธีการของแต่ละคน
เมื่อถามว่า การอภิปรายไม่ไว้ใจครั้งนี้จะเห็นสส.พรรคภูมิใจไทย ทำหน้าที่เป็นองครักษ์พิทักษ์นายกฯ หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ขอใช้คำว่าเป็นองครักษ์พิทักษ์นายกฯ แต่ถ้าใครไม่อยู่ในกฎระเบียบ ผิดข้อบังคับ ก็มีสิทธิ์ที่จะทำให้ไม่เกิดการเสียเวลา เพราะหากใช้เวลานานเกินไปก็ไม่เกิดประโยชน์ หากมีการพาดพิงก็ต้องดูว่าอยู่ในระเบียบข้อบังคับหรือไม่ ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้ใจเป็นเรื่องปกติ ทำกันอย่างกับไม่เคยมีอภิปราย
ขณะที่ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านระบุรัฐบาลใจแคบที่ให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจเพียงไม่กี่วันว่า ในยุคพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านร่วมกับพรรคประชาชน เคยขออภิปรายรัฐบาล 5 วัน แต่ได้มา 3 วัน โดยมีรัฐมนตรี 11 คน แต่ครั้งนี้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ซึ่งเรื่องจำนวนวันอภิปราย ตอนนี้ยังเป็นเพียงแค่การคาดการณ์ โดยที่วิป 3 ฝ่ายยังไม่มีการพูดคุยกัน ตอนนี้เปรียบเสมือนการขายของ คนซื้ออยากได้ของถูก คนขายอยากขายของแพง
เมื่อถามว่า กรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะลุกขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ด้วย นายสมคิด กล่าวว่า ต้องขอบคุณที่พล.อ.ประวิตร จะลุกขึ้นอภิปราย ซึ่งความจริงมีความเป็นห่วงท่านที่จะอภิปราย เพราะเท่าที่เคยเห็น 4 ปี ท่านอภิปรายได้แค่ 2 วินาที แต่ครั้งนี้เห็นว่า จะยืนเป็นชั่วโมงก็ต้องขอขอบพระคุณท่าน ก็ไม่เป็นอะไร เราเตรียมที่จะตอบรับ และยินดีที่จะอภิปราย และขอให้กำลังใจท่าน โดยขอให้ทีมรอบ ๆ ข้าง รวมไปถึงเลขาธิการพรรค พยายามให้ข้อมูลพล.อ.ประวิตรเยอะ ๆ จะได้พูดคุยกับประชาชนได้ ซึ่งตนจะรอดูไม่ไปไหน
นายสมคิด กล่าวว่า รัฐบาลมีความพร้อมที่จะตอบคำถาม เพราะมีข้อมูลและเหตุผลที่จะตอบ อย่างไรก็ตามเวทีอภิปรายถือเป็นเวทีของฝ่ายค้าน แต่ครั้งนี้รัฐบาลได้อ่านตามญัตติที่พูดมาคร่าว ๆ ซึ่งจะดูว่า จะพูดเรื่องอะไร และจากการพูดคุยกับวิปรัฐบาล และ สส. ไม่ได้เตรียมองครักษ์พิทักษ์นายกฯ แต่อย่างใด
เมื่อถามว่า รู้สึกหวั่นไหวกับข้อมูลของพรรคประชาชนหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ไม่มีอะไรที่ต้องหวั่นไหว หากถามมาก็ตอบไป ซึ่งนายกฯ จะตอบมากที่สุด จากการที่ได้ไปดูญัตติที่ฝ่ายค้านเขียนมา มีเรื่องการครอบงำ ภาวะผู้นำ เชื่อว่านายกฯ จะสามารถตอบได้ ไม่ต้องเป็นห่วง ส่วนจะไปพาดพิงกระทรวง ทบวง กรมไหน รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็สามารถชี้แจงได้
นายสมคิด กล่าวว่า จากการพูดคุยเบื้องต้น ญัตติแบบนี้ไม่ค่อยได้เกิดบ่อยนัก ซึ่งเคยเกิดครั้งหนึ่งในสมัยนายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกฯ นอกจากนั้นเป็นการอภิปรายนายกฯและคณะ หรือรัฐมนตรีรายบุคคล ดังนั้นกรอบการอภิปรายของฝ่ายค้านก็จะง่ายขึ้น เพราะต้องมีการตกลงกันก่อนประชุมว่า ญัตติเช่นนี้จะพูดได้แค่ไหน ซึ่งฝ่ายค้านจะมาโวยวายว่า พูดถึงใครก็ไม่ได้นะ เพราะเขียนญัตติมาแบบนี้ ทำไมไม่เขียนมาว่าอภิปรายนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และคณะ เพื่อจะพูดได้หมดเลย พอเขียนกรอบแคบ สมาชิกจะยอมหรือไม่ ประธานสภาจะทำได้หรือไม่
ที่รัฐสภา พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการคดีพิเศษ หรือ กคพ.เตรียมพิจารณารับหรือไม่รับคดีฮั้วเลือก สว.เป็นคดีพิเศษในวันพรุ่งนี้ (6 มี.ค.68) ว่าวันนี้มาเรื่อง พ.ร.บ.อำนาจเรียกแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคนที่ได้รับเลือกเป็นบอร์ดพิจารณามีความรู้ความเข้าใจทางกฎหมายเป็นอย่างดี การพิจารณาจะออกมาทางใดเป็นสิทธิ์ของบอร์ด ตนไม่ขอก้าวล่วงหรือแสดงความเห็น
เมื่อถามว่าเมื่อวานนี้ตอนปิดญัตติปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรม ได้ระบุว่าหากดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษอาจเข้าข่ายล้มล้างความปกครอง พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า รูปแบบการปกครองของเรามีการถ่วงดุลอำนาจการอย่างเหมาะสม ฝ่ายใดถูกควบคุมโดยใคร อำนาจหน้าที่แค่ไหนก็ทำไปแค่นั้น อย่าทำเกินเลยไปกว่าที่รัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด
เมื่อถามย้ำว่าหากวันพรุ่งนี้ กคพ. มีมติรับคดีฮั้วเลือก สว.เป็นคดีพิเศษ จะเดินหน้าเรื่องล้มล้างการปกครองเลยใช่หรือไม่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า คำว่าหาก แสดงว่ายังไม่เกิด เพราะฉะนั้น คาดเดาไม่ได้
เมื่อถามว่าขั้นตอนการถอดถอนอธิบดีดีเอสไอ จะดำเนินการเลยหรือไม่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า ถ้ายังไม่มีการกระทำความผิดรัฐธรรมนูญ หรือบทบัญญัติแห่งกฎหมายก็เป็นสิทธิที่ทุกคนทำตามหน้าที่ที่ต้องดำเนินการ
เมื่อถามว่าพรุ่งนี้จะมีการตั้งวอร์รูมหรือไม่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า ถึงเวลา ถ้ามีประชุมเราเข้าประชุมตลอด
เมื่อถามว่ามีรายงานว่าที่ กคพ.ไม่ลงมติสักที เพราะกังวลว่าฝั่ง สว.จะยื่น ม.157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ กล่าวว่า เขาไม่ผิดเราจะไปยื่นทำไม ถ้ามีอำนาจหน้าที่ก็ทำไป ตนไม่เคยไปห้าม แต่อย่าลืมความรับผิดชอบ ทั้งปฏิบัติและละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด
เมื่อถามว่าช่วงท้ายของการอภิปรายเมื่อวานนี้ สรุปว่าดีเอสไอและกระทรวงยุติธรรมเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ตาม ม.49 ของรัฐธรรมนูญ รุนแรงไปหรือไม่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า มันเป็นข้อกล่าวหาที่ถูกระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่เรายังไม่กล่าวหาใคร
เมื่อถามว่าเมื่อคืนนี้ กกต.ส่งเอกสารตอบกลับดีเอสไอว่าเป็นอำนาจของ กกต. พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า กกต.เขาได้รับอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เขาก็ดำเน