นครพนม ซ้ำแล้วซ้ำอีก ยูเทิร์นมรณะ สังเวยอีก 1 ศพ กระบะเสียหลัก พุ่งข้ามเกาะชนกระบะอีกคน เคราะห์ร้ายคนขับ หนุ่มพ่อค้าเนื้อวัว วัย 35 ปี เสียชีวิตคาที่ติดในรถ ส่วนเมียนั่งมาด้วยสาหัส คาดกระบะคันแรก หักหลบ จักรยานยนต์ซาเล้ง เตรียมยูเทิร์น เร่งหาสาเหตุ ชาวบ้านเรียกร้องแขวงทางลวงนครพนม ติดตั้งไฟส่องสว่าง ปิดจุดยูเทิร์นเสี่ยงอันตราย พบบาดเจ็บ เสียชีวิตบ่อย
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 ร.ต.อ.ก้องธานี ดีโนเมือง รองสารวัตรสอบสวน สภ.หลักศิลา อ.ธาตุพนม จ.นครพนม รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะชนกัน มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บหลายราย บริเวณถนนชยางกูร นครพนม-ธาตุพนม เขตบ้านหมันหย่อน ต.แสนพัน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ฝั่งมุ่งหน้าไปยัง อ.ธาตุพนม จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม เจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมกู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจสอบ ช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่งไปรักษา ส่วนที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีดำ ทะเบียน มุกดาหาร คนขับได้รับบาดเจ็บ ตรวจสอบสภาพคาดว่า ขับมุ่งหน้ามาจากฝั่ง อ.ธาตุพนม เสียหลักข้ามเกาะกลางถนน ข้ามมาชนกับรถยนต์ กระบะอีกคัน เป็นรถยนต์ กระบะ โตโยต้า วีโก้ แค็ป สีขาว ไม่ทราบทะเบียน เสียหายอย่างหนัก คนขับเสียชีวิตติดภายในรถ ทราบชื่อภายหลัง คือ นายวีระพล หรือต้อม อายุ 35 ปี พ่อค้าขายเนื้อวัวชาวบ้าน อ.เรณูนคร จ.นครพนม ส่วนภรรยานั่งมาด้วย ได้รับบาดเจ็บสาหัส นอกจากนี้ ยังพบรถจักรยานยนต์ซาเล้ง ได้รับความเสียหายสภาพถูกเฉี่ยวชน จอดบนถนนฝั่งมุ่งหน้าไปยังตัวเมืองนครพนม คนขับไม่ทราบชื่อ บาดเจ็บสาหัส ทั้งหมดถูกนำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบ เก็บหลักฐาน เพื่อสอบสวนหาสาเหตุโดยละเอียด ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เบื้องต้นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ รถยนต์กระบะคันแรก สีดำ ขับมุ่งหน้ามาจาก อ.ธาตุพนม เพื่อมุ่งหน้าไปยังฝั่ง ตัวเมืองนครพนม คาดว่าขณะเกิดเหตุ มีรถจักรยานยนต์ซาเล้งพ่วงข้าง เตรียมเลี้ยวยูเทิร์น ในระยะกระชั้นชิด หน้ารถยนต์กระบะคันแรก ส่งผลให้รถยนต์ พยายามหลบจนเสียหลัก ขับพุ่งข้ามเกาะกลางถนน ไปชนกับรถยนต์กระบะคันที่สอง สีขาว อีกเลนที่สวนทางมา เป็นเหตุให้เสียหายอย่างหนัก และคนขับได้รับแรงกระแทกเสียชีวิตติดในรถยนต์ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนหาสาเหตุโดยละเอียดอีกครั้ง เพื่อสรุปสาเหตุ นอกจากนี้ยังพบว่า จุดเกิดเหตุดังกล่าวเป็นถนน 4 เลน ที่ใกล้จุดยูเทิร์น เสี่ยงอันตราย ทำให้เกิดอุบัติเหตุ เสียชีวิตบ่อย ครั้ง จนชาวบ้านให้ฉายาว่า ยูเทิร์นมรณะ นอกจากนี้ในช่วงกลางคืนยังไม่มีไฟส่องสว่าง เป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ครั้ง ชาวบ้านแจ้งไปยังหน่วยงานแขวงทางหลวงนครพนม แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้ล่าสุดมีผู้มาเสียชีวิตอีก