เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 พ.ย. นายศักดิ์มงคล หรือบอย อายุ 29 ปี คนขับรถบรรทุกคันเกิดเหตุเดินทางเข้าพบคณะพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง เพื่อให้ปากคำกรณีที่ขับรถบรรทุกดินตกบ่อร้อยสายไฟฟ้า ผู้สื่อข่าวพยายามเข้าไปสอบถามว่า รถที่บรรทุกดินออกมาได้มีการชั่งน้ำหนักมาก่อนหรือไม่ แต่นายบอยปฏิเสธไม่ตอบคำถาม และพยายามรีบเดินหลบกลุ่มผู้สื่อข่าวออกไปขึ้นไปชั้น 2 ก่อนตะโกนบอกสื่อมวลชนว่าไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆอีกแล้ว

ต่อมาเวลา 12.00 น.พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าร่วมกับ พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ รรท.ผบก.น.5 พ.ต.อ.ภพธร จิตต์หมั่น รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.โอภาศ หาญณรงค์ ผกก.สน.พระโขนง โดยก่อนเริ่มประชุม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ตนในฐานะที่ดูแลงานด้านการจราจร แต่วันนี้เดินทางมาเพื่อดูสำนวนการสอบสวนและจะทำให้เป็นคดีตัวอย่าง ในกรณีรถบรรทุกน้ำหนักเกินในกทม. ซึ่งจะดูว่าบรรทุกน้ำหนักเกินเท่าไหร่ หากน้ำหนักเกินมากศาลก็จะไปพิจารณายึดรถ ไม่สามารถนำมาใช้ประกอบอาชีพได้ และจะมาไล่ดูถึงตัวเจ้าของรถ ว่ารู้เห็นเป็นใจหรือไม่ ว่ามีการบรรทุกเกินน้ำหนักที่กฎหมายกำหนด หากเจ้าของรู้เห็นเป็นใจก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วย

ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบการมาตักดินออกและนำกลับไปเทที่ไซต์งานโดยที่ยังไม่ได้ชั่งนั้นก็ต้องดูว่า รู้อยู่แล้วหรือไม่ว่าบรรทุกเกินแล้วรู้เห็นเป็นใจจะมาตักออก ถ้ารู้ก็มีความผิด ต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย อันนี้คือมาตรการทางคดีหลังเกิดเหตุ ต่อจากนี้จะดำเนินการอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดปัญหานี้ซ้ำ อันนี้คือการแก้ปัญหา จึงต้องมีการบูรณาการ ร่วมกับกรมทางหลวงเอาตราชั่งมาช่วย โดยจะมีการกวดขันในแต่ละสน. โดยจะประสานกับ ผกก.และ ตร.จราจร ออกแผนตรวจสอบ ร่วมกับ กรมทางหลวง เพื่อตรวจสอบเรื่อง การตรวจสอบน้ำหนักของรถบรรทุก ตามไซน์งานก่อสร้างของพื้นที่ นั้นๆด้วย 
 
นอกจากนี้ในภาพรวม หลังจากนี้ใน พื้นที่กทม. จะมีการ ปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด โดยรถบรรทุกที่จะวิ่งเข้ากรุงเทพฯต้องมีการชั่งน้ำหนัก รวมถึงรถบรรทุกที่ขนดินขนทรายเข้าออกใช้งานก่อสร้างในกทม ก็จะต้องมีการชั่งน้ำหนักด้วยซึ่งน้ำหนักต้องไม่เกิน โรงพักในนครบาลไม่เหมือนกับที่ต่างจังหวัด คือไม่มีตราชั่ง จึงต้องมีการช่วยเหลือผู้ใต้บังคับบัญชา โดยการประสานกับกรมทางหลวง ให้นำตราชั่งออกมารวมถึงจะต้องดูเรื่อง ช่วงเวลาการวิ่งของรถบรรทุกด้วย เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจร รวมถึง การวิ่งนอกเวลาที่กฎหมายกำหนด ส่วนประเด็นเรื่องส่วยสติกเกอร์เฉพาะกิจ ตามที่มีการออกมาเปิดเผยกันนั้น ก็จะต้องเข้าไปตรวจสอบว่ามีจริงหรือไม่ หากพบใครที่ละเมิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการหรือเจ้าหน้าที่เอง ก็ต้องถูกดำเนินคดี เบื้องต้นยังไม่ได้พูดคุยรายละเอียดกับผู้กำกับการ สน.พระโขนง แต่ตนได้ตรวจสอบสถิติการจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินในกรุงเทพมหานครย้อนหลังไป พบว่าไม่มีการจับกุมเลย จับเพียงแค่สิ่งของตกหล่นเท่านั้น ซึ่งสิ่งที่สร้างผลกระทบกับประชาชนมากกว่าคือการบรรทุกน้ำหนักเกิน ตนก็จะเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ว่าสาเหตุใดที่ทำให้ไม่มีสถิติการจับกุมเลย

ภายหลังการประชุม 1 ชั่วโมง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า รถคันเกิดเหตุเป็นรถ 10 ล้อ มีประมาณ 3 เพลา น้ำหนักจะต้องไม่เกิน 25 ต้น ถ้าตรวจสอบพบว่าน้ำหนักเกินและดำเนินคดีแน่นอน คาดว่าไม่เกินช่วงเย็นวันนี้จะมีเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงพร้อมอุปกรณ์มาชั่ง เบื้องต้นได้แจ้งข้อหากับนายบอย 1 ข้อหา ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ส่วนทางแพ่งพนักงานสอบสวนจะดำเนินการเรียกผู้เสียหายทั้งหมดมาเจรจาไกล่เกลี่ยกับผู้รับเหมา สิ่งสำคัญลำดับแรกที่จะต้องดำเนินการคือการชั่งน้ำหนักรถบรรทุกทั้งหมดที่เดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร และกวดขันห้วงเวลารวมถึงเส้นทางการเดินรถเพื่อแก้ปัญหาจราจรติดขัดในพื้นที่ ซึ่งจะได้มีการประสานกับกรมทางหลวงให้ช่วยเอาตราชั่งออกมาตั้งในพื้นที่แต่ละ สน. รวมถึงหน้าไซต์งานก่อสร้างเพื่อตรวจน้ำหนักรถบรรทุกทุกคัน พร้อมเตรียมเชิญผู้ประกอบการรถบรรทุกทั้งหมดมาพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายรถบรรทุกด้วย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตนจะทำให้เป็นคดีตัวอย่างเกี่ยวกับรถบรรทุกน้ำหนักเกิน ตั้งแต่การดำเนินคดีกับคนขับ ไล่ย้อนไปถึงเจ้าของว่าคือใคร รู้เห็นเป็นใจหรือไม่ รู้น้ำหนัก และวงรอบการวิ่งของรถไหม ซึ่งหากรู้เห็นไปใจก็จะดำเนินการกับเจ้าของด้วย ส่วนเหตุที่มีการขับรถบรรทุกที่ตักดินออกไปทั้งที่รู้ว่ารถบรรทุกมีน้ำหนักเกินนั้น ก็ถือว่าเป็นการกระทำความผิดร่วมกันและเรื่องสติ๊กเกอร์ จะต้องตรวจสอบอีกครั้งว่ามีหรือไม่ ซึ่งตนยังไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสติ๊กเกอร์ “ตัว B” ที่ติดอยู่ด้านหน้ารถบรรทุก อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เข้ามารับผิดชอบงานในส่วนนี้ ได้มีการดูสถิติย้อนหลังเกี่ยวกับการจับกุมรถบรรทุก พบว่าที่ผ่านมาไม่ได้มีการจับกุมรถบรรทุกที่มีน้ำหนักเกินมีเพียงแต่การจับกุมรถบรรทุกที่ทำของตกหล่นบนท้องถนนเท่านั้น ซึ่งจากนี้ไปจะต้องดำเนินการอย่างจริงจัง ปล่อยไปไม่ได้อีกแล้ว