วันที่ 21 พ.ย.66 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อม นายต่อพงษ์ จีนใจน้ำ ทนายความ ยื่นหนังสือต่อ น.ส.อรุณศรี วิชชาวุธ ผู้ผอ.กองบริหารคดีพิเศษ เพื่อขอให้สืบสวนสอบสวนการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไธสงค์ ผกก.2 บก.ทล. เนื่องจากอาจเข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย หรือ พ.ร.บ.อุ้มหาย พ.ศ. 2565
นายวิโรจน์ กล่าวว่า วันนี้มายื่นตรวจสอบการเสียชีวิตของ ผกก.เบิ้ม เพราะมีข้อสงสัยที่เผยแพร่ตามหน้าสื่อ ว่าอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย เพราะก่อนเสียชีวิตในบ้านพักของตนเองเมื่อวันที่ 10 ก.ย. ได้เข้าพักโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านเมืองทองธานี และจากรายงานแจ้งว่ามีตำรวจเฝ้าที่หน้าห้องพัก พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือส่วนตัวไป จนกระทั่งเวลาประมาณ 04.00 น. กล้องวงจรปิดได้จับภาพ ผกก.เบิ้ม หลบหนีกลับบ้านโดยใช้ช่องทางหนีไฟ ทั้งนี้ หากไม่ได้มีการถูกควบคุมตัวหรือจำกัดสิทธิเสรีภาพก็ต้องตั้งคำถามว่า ผกก.เบิ้ม เหตุใดไม่ลงมาตรงช่องทางเดินปกติ ออกมาหน้าโรงแรมแล้วเรียกแท็กซี่กลับบ้าน รวมทั้งไม่ได้มีการแจ้งญาติให้รับทราบหรือว่ามีเจตนาต้องการปกปิดหรือไม่ การเสียชีวิตของ ผกก.เบิ้ม อาจมีความเกี่ยวข้องกับส่วยรถบรรทุกที่ตกถนน ช่วงซอยสุขุมวิท 64/1 และมีความเคลือบแคลงใจอย่างมากที่นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ออกชี้นำคดี โดยยังไม่ได้รับการมอบหมายจาก ผบ.ตร. สุดท้ายบทสรุปสติ๊กเกอร์สีเขียวหน้ารถบรรทุกดังกล่าว เป็นเพียงการเสริมดวงชะตาเท่านั้น อีกทั้ง กรณีส่วยบรรทุกมีมูลค่าคอรัปชั่นสูงกว่าหมื่นล้านบาท อาจมีการส่งต่อผลประโยชน์ไปยังข้าราชการระดับสูงหรือนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายท่าน กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งจะเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ จึงขอให้ดีเอสไอดำเนินการสืบสวนสอบสวนเชิงลึก เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฝ้า ผกก.เบิ้ม ที่ห้องพักในโรงแรมมาสอบสวน ส่วนการที่มายื่นเรื่องล่าช้าเพราะ พ.ร.บ.อุ้มหาย เป็นกฎหมายใหม่ ซึ่งต้องมีการหารือกับฝ่ายกฎหมายก่อน โดยตั้งข้อสงสัยว่ายึดโทรศัพท์ของ ผกก.เบิ้ม ไปทำไม และพาไปนอนพักโรงแรมย่านเมืองทองธานี เพราะอะไร แล้วเหตุใดต้องหลบหนีออกทางช่องหนีไฟด้วย อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเชื่อว่าสาเหตุการเสียชีวิตของ ผกก.เบิ้ม ยิงตัวเองเสียชีวิต แต่ต้องการพิสูจน์ถึงสาเหตุก่อนหน้านั้นว่ามีแรงจูงใจอย่างไรเพราะยังมีลูกเล็กอายุเพียง 8 ขวบเท่านั้น
นายวิโรจน์ กล่าวว่า การเสียชีวิตของตำรวจทั้ง 2 ท่าน คือ “สารวัตรสิว” พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. และ “ผกก.เบิ้ม” ในคดีกำนันนก มีความเชื่อมโยงถึงส่วยรถบรรทุกและผู้มีอิทธิพล โดย ผกก.เบิ้ม อาจมีแรงกดดันจากภายนอก หมายถึงการกระทำใดๆ ที่ย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ที่สร้างความทรมานแก่ร่างกายและจิตใจ เป็นเหตุที่ต้องเอาผิดกับบุคคลที่ประพฤติและกระทำเช่นนั้น ตามมาตรา 31 พ.ร.บ.อุ้มหาย
