เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ยันไม่ได้ผลักดันผู้ลี้ภัยกลับประเทศ แต่เป็นการเดินทางกลับโดยสมัครใจ เนื่องจาก ผู้ลี้ภัยมีความห่วงใย บ้านเรือน ตลอดจนทรัพย์สินและ พื้นที่ทางการเกษตรของตน ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ไม่ปรากฏสถานการณ์การสู้รบด้วยกำลังขนาดใหญ่ในพื้นที่ชายแดนไทยแต่อย่างใด
วันที่ 7 พ.ย.66 กกล.นเรศวร โดย ฉก.สิงหนาท (ร.17) ขอยืนยันว่า ฝ่ายจนท.ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้ดำเนินการ การผลักดันผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ให้กลับประเทศแต่อย่างใด ทั้งนี้การเดินทางกลับภูมิลำเนา โดยความสมัครใจ ในสภาวะการณ์ที่มีความปลอดภัย เป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ของ ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา(ผภสม.)เนื่องจากราษฎร กลุ่มดังกล่าว มีความห่วงใย บ้านเรือน ตลอดจนทรัพย์สินและ พื้นที่ทางการเกษตรของตน ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ไม่ปรากฏสถานการณ์การสู้รบด้วยกำลังขนาดใหญ่ และการใช้อากาศยานของ ทางการเมียนมา เข้าโจมตีต่อเป้าหมายทางภาคพื้น ในพื้นที่ดังกล่าว ส่งผลให้ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) มีความรู้สึกปลอดภัยในพื้นที่และมีความต้องการเดินทางกลับสู่ถิ่นฐานของตน เพื่อประกอบอาชีพและ ดำรงชีวิตตามปกติ โดยการเดินทางกลับของ ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) นั้นขึ้นอยู่กับ ความสมัครใจ โดย เริ่มมีการทยอยเดินทางกลับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 66 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันมี จำนวน 5,748 คน และคงเหลือในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวทั้ง 5 พื้นที่ จำนวน 4,187คน โดย หน่วยงานทุกส่วนได้ ให้การสนับสนุนสิ่งของทั้งเครื่องอุปโภคและ บริโภคตลอดจนอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างสมเกียรติ
สำหรับ ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ที่ยังคงอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว หน่วยได้ดำเนินการตามแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ และ ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ในการปฏิบัติหน่วยยังคงประสานงานร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง องค์กรระหว่างประเทศและองค์กรเอกชนที่ให้การช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ผ่านทางศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน และจัดตั้งศูนย์ประสานงานประจำพื้นที่ แต่ละพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว เพื่อบริหารจัดการและให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม ตลอดจนดูแลให้ความคุ้มครอง ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ตลอดห้วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ฉก.สิงหนาท(ร.๑๗) โดย กกล.นเรศวร ประสานงานร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง องค์กรระหว่างประเทศและองค์กรเอกชนที่ให้การช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ผ่านทางศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน และจัดตั้งศูนย์ประสานงานประจำพื้นที่ แต่ละพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว เพื่อบริหารจัดการและให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม ตลอดจนดูแลให้ความคุ้มครอง ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ทั้งนี้หากผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) มีความประสงค์ที่จะต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยความสมัครใจ และในห้วงเดือนที่ผ่านมา ในพื้นที่ภูมิลำเนาของ ผภสม. ดังกล่าว เหตุการณ์สงบไม่มีการสู้รบ ประกอบกับความจำเป็นด้านการประกอบอาชีพของรวมทั้งการให้การศึกษากับเยาวชน รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ ให้กับ ผภสม. ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ ผภสม. เดินทาง กลับภูมิลำเนาทั้งนี้การเดินทางกลับดังกล่าวจะเป็นไปโดยความสมัครใจของ ผภสม. และหน่วยให้ความสำคัญจะมีการอำนวยความสะดวกให้มีการเดินทางกลับด้วยความปลอดภัย และ สมเกียรติ ต่อไป