วันที่ 18 ก.พ.67 แหล่งข่าวสมาชิกระดับสูงของกองกำลัง  KNDF กล่าวว่า ในห้วงตั้งแต่วันที่ 10-13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพบกเมียนมา รุ่น MI-17 จำนวน 2 ลำ ได้บินเข้ามารับกำลังพลทหารเมียนมาสังกัด กองพันเคลื่อนที่เร็วที่ 510 ( พัน.คร510 สน.) ที่ฐานเนิน 2888 ใกล้ฐานแม่ลายู โดยได้มีการใช้เฮลิคอปเตอร์บินมารับทหารเมียนมา กองพันดังกล่าว จำนวน 6 เที่ยวบิน กลับไปยังที่ตั้งปกติในรัฐฉาน

ทั้งนี้ ในเขตพื้นที่ ตำบลชาดอว์ จ.ลอยก่อว์ รัฐคาเรนนี  ทหารเมียนมาได้ถอนกำลัง กลับไปแล้ว 2 แห่ง ในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำสาละวิน ในรัฐคาเรนนี และหลังจากนั้น ทางกองกำลัง KNDF และ KA ได้ส่งกำลังทหารเข้าไปยึดฐานที่มั่นของทหารเมียนมาทั้ง 2 ฐาน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ฐานที่มั่นดังกล่าว ถือเป็นฐานที่ใหญ่และมั่นคงแห่งหนึ่งของทหารเมียนมา

ก่อนหน้าปฏิบัติการ ยุทธการ 1111 ของ กองกำลังติดอาวุธกะเหรี่ยงคาเรนนี ทางกองกำลัง KA ได้มีการส่งโดรน บินไปทิ้งจดหมาย ให้ทหารเมียนมา พัน.คร.510 ให้ยอมแพ้และวางอาวุธต่อกลุ่มคาเรนนี่ หากไม่ยินยอมจะทำการส่งกำลังทหารเข้าโจมตีเพื่อยึดค่ายดังกล่าว ซึ่งสร้างความวิตกกังวลให้กับทหารเมียนมาเป็นอย่างมาก ประกอบกับได้ถูกกองกำลังคาเรนนี ซุ่มโจมตี ด้วยสไนเปอร์ และเครื่องยิงลูกระเบิด M-79 และ จรวด RPG อย่างต่อเนื่องมาหลายเดือน และปิดกั้นเส้นทางส่งเสบียงบำรุงกำลัง ทุกด้าน จนล่าสุดทหารเมียนมาจึงยอมถอนกำลังออกไป 

ปัจจุบันทหารเมียนมายังมีค่ายฐานที่มั่น อีก 2 แห่ง ได้แก่ ค่ายปากเสือ หรือค่ายผาห่มน้ำ และ ค่ายสบห้วยอื้น ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามช่องทางบ้านน้ำเพียงดิน ต.ผาบ่อง อ.เมือง ของไทย ที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายในการปฏิบัติการครั้งต่อไปของฝ่ายกะเหรี่ยงคาเรนนี