วันที่ 5 ม.ค.67 แหล่งข่าวผู้นำระดับสูงของกองทัพกะเหรี่ยงคาเรนนี/คะยา เปิดเผยถึงสถานการณ์การสู้รบในรัฐคาเรนนี/คะยา ว่า ทางกองกำลังผสมกะเหรี่ยงคาเรนนี ได้ยุติการบุกเข้าโจมตีทหารเมียนมาในเรือนจำลอยก่อว์ เนื่องจากมีการสูญเสียกำลังพลและกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่รอบเรือนจำอย่างหนัก สาเหตุมาจากทหารเมียนมาได้มีการใช้เครื่องบินขับไล่มาทิ้งระเบิดใส่ กองกำลังผสมที่ล้อมเรือนจำ โดยเป็นระเบิดแบบคลัสเตอร์บอมบ์ ทำให้มีทหารของกองกำลังผสม เสียชีวิตไป 11 นายและบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนั้นราษฎรที่อาศัยอยู่พื้นที่ใกล้เคียงกับเรือนจำก็ได้รับผลกระทบถูกระเบิดที่ทิ้งจากเครื่องบิน เสียชีวิต 4 คน และบาดเจ็บอีก 3 คนที่หมู่บ้านดอว์ ยู ขู่
แหล่งข่าว เปิดเผยต่อไปว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว ทางกองกำลังผสมคาเรนนี จึงได้มีการเปลี่ยนแผนการปฏิบัติการทางทหารขึ้นมาใหม่ ด้วยการใช้กำลังจำนวนน้อยปิดล้อมเรือนจำลอยก่อว์ไว้ และมีการสกัดกั้นการส่งเสบียงอาหารให้กับทหารเมียนมาในเรือนจำ เพื่อหวังการปิดล้อมจะทำให้ทหารเมียนมาต้องยอมจำนนโดยไม่ต้องใช้อาวุธเข้าโจมตีเนื่องจากทำให้เกิดการสูญเสียกำลังพลรวมไปถึงอาวุธกระสุนโดยใช่เหตุ
อย่างไรก็ตาม ทางกองกำลังผสม จะมีการเปิดแผนยุทธการ ด้วยการเข้าโจมตีกวาดล้างทหารเมียนมาในพื้นที่ เมืองฟลูโซว์ และเมืองผาซอง ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อกวาดล้างทหารเมียนมาที่ยังคงอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว และถูกปิดล้อมมากว่า 3 เดือน โดยในห้วงปฏิบัติการ 1111 ทหารของกองกำลังผสมคาเรนนี/คะยา ได้ทำการเปิดแผนยุทธการที่เมืองลอยก่อว์ ส่วนทหารเมียนมาที่ประจำในเมืองที่กล่าวมาข้างต้น ทางกองกำลังผสมคาเรนนี ได้ปิดล้อมไว้เฉยๆ โดยทหารเมียนมาเหล่านั้น ไม่สามารถขัดขวางหรือสร้างปัญหาให้กับกองกำลังผสมคาเรนนี แต่อย่างใด
ทั้งนี้ ในการที่จะเปิดแผนยุทธการกับทหารเมียนมาในเมืองต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ทางกองกำลังผสมฯ ได้มีการเปลี่ยนแผนปฏิบัติการทางด้านการทหารต่อทหารเมียนมาใหม่ ด้วยการผลักดันทหารเมียนมาที่อยู่ในพื้นที่ให้ออกไปให้หมด เหมือนกับการปฏิบัติการทางทหารต่อทหารเมียนมาในเมืองแม่แสะ โดยทางกองกำลังผสมคาเรนนี สามารถขับไล่ทหารเมียนมาออกจากเมืองได้สำเร็จ จากนั้นเมืองอื่น ๆ ก็จะถูกปฏิบัติการทางด้านการทหารเหมือนเมืองแม่แสะ จนไม่หลงเหลือทหารเมียนมาในรัฐคาเรนนีอีกต่อไป ส่วนในพื้นที่เมืองลอยก่อว์ ทหารเมียนมา ก็จะถูกปิดล้อมต่อไปจนต้องยอมจำนวนในที่สุด
ในส่วนของทหารเมียนมา ที่อยู่ตามฐานปฏิบัติการต่าง ๆ รอบฐานยามู ซึ่งเป็นกองบัญชาการหลักของกองกำลังกะเหรี่ยงคาเรนนี KA ตรงข้ามอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ทางทหารกะเหรี่ยงคาเรนนี ยังคงมีการปฏิบัติการทางทหารด้วยการใช้พลซุ่มยิง (สไนเปอร์) สังหารทหารเมียนตามฐานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ขณะที่มีการปฏิบัติการทางด้านจิตวิทยาด้วยการโปรยใบปลิวจากโดรน ให้ทหารเมียนมาเหล่านั้น ยอมจำนน
สำหรับประชาชนในเมืองดีมอโซว์ รัฐคาเรนนี เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ทางด้านกองกำลังทหารกะเหรี่ยงคาเรนนี KA ได้จัดเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ เข้าไปให้ความรู้แก่ประชาชน เรื่องทุ่นระเบิด การสังเกต ทุ่นระเบิดและการหลบเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงที่มีทุ่นระเบิด เนื่องจากทหารเมียนมาในเมืองดีมอโซว์ ได้ถอนตัวออกจากเมืองไปหมดแล้ว แต่กับดักทุ่นระเบิดยังคงตกค้างและไม่ถูกเก็บกู้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ ที่เข้าป่าไปหาของป่าเพื่อดำรงชีพ อาจจะเหยียบถูกกับระเบิด เป็นอันตรายต่อชีวิตได้
ทั้งนี้ปัญหาเรื่องทุ่นระเบิดบุคคล และระเบิดแสวงเครื่อง ทหารเมียนมาส่วนใหญ่เมื่อถูกส่งมาปฏิบัติการในพื้นที่ของฝ่ายต่อต้าน มักจะวางทุ่นระเบิด เป็นจำนวนมากรอบ ๆ ฐานที่มั่นและเส้นทางเดินในป่าที่จะมุ่งหน้าเข้าหาฐานที่มั่นของทหารเมียนมา เพื่อสกัดกั้นฝ่ายต่อต้าน โดยทหารเมียนมาจะมีการสับเปลี่ยนกองพันเข้าปฏิบัติการในพื้นที่บ่อยครั้ง ซึ่งแต่ละรอบการสับเปลี่ยนกำลัง ทหารเมียนมาชุดใหม่ก็จะมีการวางทุ่นระเบิดใหม่อีก ทำให้เกิดสนามทุ่นระเบิดขนาดใหญ่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อราษฎรในพื้นที่เป็นอย่างมาก