คร.ย้ำผู้ติดเชื้อ HIV งดมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า หลีกเลี่ยงปาร์ตี้ที่มีสารมึนเมาและตามด้วยการมีเพศสัมพันธ์ หากมีอาการสงสัยให้รีบไปพบแพทย์ตรวจรักษาทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้มีอาการป่วยรุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ติดเชื้อ HIV ซึ่งภูมิคุ้มกันบกพร่องอยู่แล้ว ส่วนสถานการณ์โรคฝีดาษวานรไทยสัปดาห์เดียวติดเชื้อ 24 คน ตาย 1 คน ติดเชื้อรวม 559 ราย เสียชีวิต 2 ราย

วันที่ 30 ต.ค.66 นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค  เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคฝีดาษวานรในประเทศไทย (ข้อมูล ณ วันที่ 28 ต.ค.6) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 24 ราย พบในกรุงเทพฯ 9 ราย เชียงใหม่ และนนทบุรี จังหวัดละ 3 ราย ภูเก็ต 2 ราย นครปฐม ชลบุรี ปทุมธานี ปราจีนบุรี สระบุรี อุดรธานี และอุบลราชธานี จังหวัดละ 1 ราย และสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานผู้ป่วยเอชไอวีติดฝีดาษวานร เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 24 ปี เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีและขาดยามา 3 ปี ระดับเม็ดเลือดขาว CD4 เท่ากับ 3 เซลล์ต่อมิลลิลิตร เริ่มป่วยตั้งแต่ 25 ส.ค.66 และไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งด้วยอาการไข้ อ่อนเพลีย มีผื่นใบหน้า หลัง มือ บริเวณอวัยวะเพศ และต่อมาวันที่ 12 ก.ย.66ได้รับการส่งต่อมารักษาที่สถาบันบำราศบำราศนราดูร เนื่องจากมีอาการรุนแรง คือ ผิวหนังตายบริเวณที่จมูก แผ่นหลัง และนิ้วมือ และมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนที่ผิวหนัง

“ในสภาพที่ผู้ป่วยเอชไอวีรายนี้มีภูมิคุ้มกันบกพร่องพบการแพร่กระจายของเชื้อฝีดาษวานรไปที่ปอดทำให้เกิดปอดอักเสบ มีโรคติดเชื้อฉวยโอกาสที่เกิดจากเชื้อซีเอ็มวี (Cytomegalovirus; CMV) แม้ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยยา tecovirimat นาน 28 วัน ร่วมกับยาต้านไวรัสเอชไอวี และยารักษาโรคติดเชื้ออื่นๆ ที่ตรวจพบ แต่ยังมีการตายของเนื้อเยื่อเป็นบริเวณกว้างขึ้น ต่อมามีภาวะไตวายและระบบการหายใจล้มเหลวจนเสียชีวิตในที่สุด”

นพ.ธงชัย กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์โรคฝีดาษวานรในประเทศไทย (ข้อมูล ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2566) พบ    ผู้ติดเชื้อรวม 559 ราย เสียชีวิต 2 ราย เป็นผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง ชาวไทย 503 ราย ชาวต่างชาติ 52 ราย     ไม่ระบุสัญชาติ 4 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มหลากหลายทางเพศ  474 ราย และรู้ว่าติดเชื้อ HIV 274 ราย คิดเป็นร้อยละ 44.18 กลุ่มอายุที่พบมากที่สุดคือ กลุ่มอายุ 30-39 ปี (241 ราย) ตามด้วยอายุ 20-29 ปี (172 ราย) ในสัปดาห์นี้พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 24 ราย กรุงเทพ 9 ราย เชียงใหม่ และ นนทบุรีจังหวัดละ 3 ราย ภูเก็ต      2 ราย นครปฐม ชลบุรี ปทุมธานี ปราจีนบุรี สระบุรี อุดรธานีและอุบลราชธานีจังหวัดละ 1 ราย

นพ.ธงชัย กล่าวต่อว่า อาการของโรคฝีดาษวานรที่พบบ่อยได้แก่ มีผื่น มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ      ต่อมน้ำเหลืองโต และอาการคัน สำหรับการรักษานั้น หากผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง ไม่มีโรคอื่นร่วมด้วย จะรักษาตามอาการ และสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง มีโรคประจำตัวร่วม เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี จะให้ยาต้านไวรัส Tecovirimat (TPOXX) โดยเร็ว ซึ่งผลการรักษาส่วนใหญ่จะอาการดีขึ้น แต่มีบางรายยที่ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องรุนแรงจะเสียชีวิต โดยกระทรวงสาธารณสุขกระจายยาต้านไวรัสดังกล่าวไปไว้ที่โรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดที่พบการระบาด ทั้งนี้ โรคฝีดาษวานร สามารถป้องกันได้ โดยหลีกเลี่ยงการมีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้การติดเชื้อโรคฝีดาษวานร และงดมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า เพื่อป้องกันเองและลดการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น รวมถึงไม่สัมผัสใกล้ชิดแนบเนื้อกับผู้ที่มีผื่น ตุ่มหรือหนอง แนะนำให้ล้างมือบ่อยๆ ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น และขอความร่วมมือหน่วยงานสาธารณสุขทุกจังหวัดเฝ้าระวัง และติดตามกลุ่มเสี่ยงพร้อมทั้งสื่อสารให้ความรู้วิธีการป้องกันหากประชาชนมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำในการปฏิบัติตัว สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน  กรมควบคุมโรค โทร. 1422